
2025-10-10 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก
ความกังวลเรื่องรัฐบาลสหรัฐชัตดาวน์และการลดดอกเบี้ย: โลหะเงินจะพุ่งถึง $75 ได้ไหม?
รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการแล้ว ขณะที่ตลาดกำลังจับตาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ตอนนี้ตลาดได้สะท้อนความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยไปแล้ว เงินเฟ้อยังคงทรงตัวในระดับสูง และค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงอีกครั้ง ส่งผลให้โลหะเงินเริ่มกลับมาฟื้นตัว สภาพคล่องกำลังหลั่งไหลกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็น “สูตรมหภาค” แบบเดียวกับที่เคยทำให้เกิดการปรับขึ้นครั้งใหญ่ของราคาโลหะเงินในอดีต แต่ครั้งนี้ กราฟชี้ให้เห็นสัญญาณบางอย่างที่อาจยิ่งใหญ่กว่าเดิม โลหะเงินจะสามารถทำลายคำสาป 40 ปี และพุ่งทะลุถึง $75 ได้หรือไม่? ฟังดูเหมือนความฝัน แต่เมื่อปีที่แล้ว ทองคำแตะ $3,000 ซึ่งตอนนั้นก็มีคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้เช่นกัน การคาดการณ์ราคาโลหะเงิน ปี 2025 เริ่มจากสิ่งที่เห็นได้ชัด: ราคาของโลหะเงินได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ความต้องการอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยที่กลับมาอีกครั้ง จากการคาดการณ์หลายสำนักเกี่ยวกับราคาโลหะเงินในปี 2025 พบว่าตอนนี้ราคากำลังเข้าใกล้ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2011 ความแตกต่างในรอบนี้คือ “ภาวะตึงตัวทางเศรษฐกิจมหภาค” ที่เกิดขึ้นพร้อมกับ “นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น” เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ผลตอบแทนพันธบัตรจะลดลง และโลหะมีค่าต่างๆ เช่น โลหะเงิน จะยิ่งโดดเด่นขึ้น เพราะในสภาวะที่อัตราผลตอบแทนต่ำ สินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ยจะดูน่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิม เมื่อรวมกับปัญหาการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยิ่งกลายเป็น “ค็อกเทลของความกลัว สภาพคล่อง และโอกาส” ที่พร้อมขับเคลื่อนตลาด หากคุณติดตามแนวโน้มราคาของโลหะเงินในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแรงส่งของตลาดยังคงต่อเนื่อง และทุกครั้งที่มีสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือท่าทีผ่อนคลายจาก Fed ราคาของโลหะเงินก็มักจะขยับขึ้นอีกขั้น ทองคำ vs โลหะเงิน: เกมระยะยาว กราฟนี้แสดงให้เห็นว่า ทองคำมีผลงานเหนือกว่าโลหะเงินอย่างมากตั้งแต่ปี 1980 โดยมูลค่าที่ปรับตามดัชนีของทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่า ขณะที่โลหะเงินยังตามหลังอยู่มาก แต่หากสังเกตให้ดี ทั้งสองโลหะกำลังแสดงให้เห็นถึง รูปแบบการฟื้นตัวแบบก้นกลม ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถูกระบุด้วยเส้นโค้งสีเขียวในกราฟ การฟื้นตัวรอบแรกเกิดขึ้นหลังวิกฤตปี 2011 และรอบที่สอง ซึ่งก็คือช่วงที่เรากำลังอยู่ตอนนี้ มีลักษณะคล้ายกันมาก ทองคำได้ทะยานขึ้นในแนวตั้งไปแล้ว ขณะที่โลหะเงินกำลังสร้างรูปแบบคล้ายกระจกสะท้อน อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวตามมาช้ากว่า ลูกศรสีม่วงแบบจุดในกราฟ คือแนวโน้มที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจเป็น การเทรดแบบกลับสู่ค่าเฉลี่ย ที่โลหะเงินเริ่มไล่ตามช่องว่างด้านผลตอบแทนที่ยาวนานหลายทศวรรษของทองคำ หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ราคาโลหะเงินที่ $75 อาจไม่ไกลเกินเอื้อม และอาจเป็น “การล้างแค้น” ที่รอคอยมานานของโลหะเงินก็ได้ การต่อสู้ของโลหะเงินกับกำแพงราคา $50 กราฟนี้เล่าเรื่องของโลหะเงินได้ทั้งหมดในภาพเดียว รูปแบบชัดเจนว่า โลหะเงินจะสร้างฐานราคาใหญ่ ทดสอบแนวต้านที่ $50 แล้วจะเกิดขึ้นเพียงสองทาง คือร่วงแรง หรือทะลุเข้าสู่ยุคใหม่ การปรับตัวขึ้นในรอบนี้มีปัจจัยที่แตกต่างออกไป ทำให้ฝั่งกระทิงยังคงมีความหวัง: หากโลหะเงินสามารถทะลุแนวต้านที่ $50 ได้อย่างชัดเจน แรงโมเมนตัมอาจส่งให้ราคาทะยานขึ้นสู่ระดับจิตวิทยาที่ $75 ได้ไม่ยาก ตัวเลขนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม เพราะเป็นการปรับขึ้นประมาณ 50% จากจุดสูงสุดของรอบก่อนหน้า ซึ่งยังอยู่ในกรอบความผันผวนทางประวัติศาสตร์ของตลาด ปัจจัยจากเฟด: การลดดอกเบี้ยอาจเป็นชนวนสำคัญ ตลาดในขณะนี้กำลังคาดการณ์ว่าจะมีการ ลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปี 2025 ตามข้อมูลจาก FedWatch สำหรับโลหะเงิน นี่ถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการพุ่งขึ้นของราคา อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และเนื่องจากโลหะเงินมีการกำหนดราคาด้วยดอลลาร์โดยตรง จึงเป็นแรงหนุนในทันทีต่อทิศทางราคาของโลหะเงิน ทุกการคาดการณ์ราคาหลักของโลหะเงินตั้งแต่ยุค 1980s แสดงรูปแบบที่คล้ายกัน คือ เมื่อเฟดผ่อนคลายนโยบาย โลหะเงินจะพุ่งขึ้น และเมื่อเฟดเข้มงวด ราคาจะชะลอตัว สำหรับรอบนี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงผ่อนคลายอีกครั้ง แต่มีปัจจัยเสริมอย่างภาระหนี้ทั่วโลกที่สูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง และความไม่แน่นอนทางการเมือง นี่ไม่ใช่สภาวะปกติของตลาด แต่คือ พายุสมบูรณ์แบบสำหรับโลหะเงิน โลหะเงินจะขึ้นถึง $75 ได้จริงหรือไม่? ราคา $75 ยังไม่การันตี แต่ เป็นไปได้ โลหะเงินเคยแตะเกือบ $50 ในปี 2011 และหากคำนวณตามสัดส่วนของอัตราเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของดอลลาร์ในปัจจุบัน ระดับราคาที่เทียบเท่ากันจะอยู่ราว $70–$80 เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ หากปัจจัยทั้งหมดนี้สอดคล้องกัน โลหะเงินอาจกลับมาทวงบัลลังก์ในฐานะ “โลหะแห่งประชาชน” ได้อีกครั้ง เมื่อความกลัวมาพบกับสภาพคล่อง โลหะเงินจะเปล่งประกาย ท่ามกลางภาวะการปิดหน่วยงานรัฐ การคาดการณ์การลดดอกเบี้ย และการที่โลหะเงินตามหลังทองคำมายาวนาน แนวโน้มของโลหะเงินในปี 2025 ดูร้อนแรงอย่างมาก มันจะไปถึง $75 ได้หรือไม่ คำตอบขึ้นอยู่กับว่าความตึงเครียดทางเศรษฐกิจนี้จะยืดเยื้อแค่ไหน แต่อย่างหนึ่งที่แน่นอน ยักษ์ที่หลับใหลอย่างโลหะเงินกำลังจะตื่นขึ้น และเมื่อมันตื่น ตลาดอาจต้องใส่แว่นกันแดดเตรียมรับแสงเจิดจรัสของมันไว้ได้เลย