ค่าเงินดอลลาร์จะยังคงร่วงต่อในปี 2025 หรือไม่? เจาะลึกแนวโน้มสำคัญ 

2025-08-15 | คาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์ , ดอลลาร์สหรัฐ , ดัชนี DXY , เจาะลึกตลาดรายสัปดาห์

การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ทำให้หลายฝ่ายประหลาดใจ ดัชนีดอลลาร์ (DXY) บันทึกการร่วงลงในช่วงครึ่งปีแรกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 โดยดิ่งลงอย่างรุนแรงก่อนจะดีดตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม แม้การฟื้นตัวนั้นจะช่วยชดเชยบางส่วนที่สูญเสียไป แต่นักวิจัยจาก Morgan Stanley คาดว่าการอ่อนค่ายังไม่จบ และดอลลาร์อาจร่วงลงอีก 10% ภายในสิ้นปี 2026 

แล้วอะไรคือเบื้องหลังการร่วงของดอลลาร์ในปี 2025? และมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลับมาฟื้นตัว? มาค้นหาคำตอบกัน 

สรุปภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ – ครึ่งปีแรกของปี 2025 

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 ดัชนี DXY ร่วงลงประมาณ 10.8% ซึ่งถือเป็นผลงานครึ่งปีแรกที่ย่ำแย่ที่สุด นับตั้งแต่การร่วงลง 14.8% เมื่อต้นปี 1973 

นักวิเคราะห์ชี้ถึง 2 แรงกดดันสำคัญ: 

  • ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าและภาษีของทรัมป์ 
  • ความคาดหวังของตลาดต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ 

ทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลกดดันอย่างหนักต่อค่าเงินดอลลาร์ 

ทำไมดอลลาร์อ่อนค่าลงในปี 2025 

1. ภาษีและความไม่แน่นอนด้านนโยบาย บั่นทอนแรงหนุนของดอลลาร์ 

ท่าทีของทรัมป์ที่เปลี่ยนแปลงไปในเรื่องภาษีและการปฏิรูปภาษี สร้างแรงกดดันระยะยาวต่อค่าเงินดอลลาร์ มาตรการกีดกันทางการค้าไม่เพียงแต่สร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลก แต่ยังทำลายความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกสหรัฐฯ 

ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายยังสร้างความกังวลให้นักลงทุน ลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์ และยิ่งตอกย้ำแนวโน้มขาลงของค่าเงิน 

2. การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว 

การชะลอตัวของเศรษฐกิจยิ่งกดดันค่าเงินดอลลาร์ต่อไป เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเบนทิศทางเงินทุนไปยังเศรษฐกิจที่มีโมเมนตัมแข็งแกร่งกว่า 

แม้อัตราการเติบโต GDP ในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 3.0% ซึ่งดูแข็งแกร่งในเบื้องต้น แต่นาย Michael Gapen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของ Morgan Stanley เน้นย้ำตัวเลขที่สะท้อนภาพได้ชัดเจนยิ่งกว่า: 

  • การเติบโตของการใช้จ่ายภาคเอกชนขั้นสุดท้าย ลดลงจาก 2.7% ในปีที่แล้ว เหลือเพียง 1.2% ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่เย็นตัวลง 

3. ความไม่แน่นอนของนโยบายเฟด เขย่าความเชื่อมั่นของตลาด 

อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อค่าเงิน อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 ทิศทางนโยบายของเฟดยังคงไม่ชัดเจน ความขัดแย้งระหว่างทรัมป์และประธานเฟด Jerome Powell ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด 

ดัชนี CPI เดือนกรกฎาคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดปรับความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนจาก 85% เป็น 91% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสำหรับการปรับลดในเดือนตุลาคมและธันวาคม ความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยมักกดดันค่าเงินดอลลาร์ 

4. แนวโน้มลดการใช้ดอลลาร์ (De-Dollarization) กำลังเร่งตัว 

บทบาทของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองอันดับหนึ่งของโลกและสินทรัพย์ปลอดภัยกำลังถูกตั้งคำถาม จากผลสำรวจล่าสุดของ Bank of America พบว่า ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกได้ลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์ลงสู่ระดับ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2006 ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจที่ลดลงต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ 

อะไรที่อาจกระตุ้นให้ดอลลาร์ฟื้นตัวในปี 2025? 

แม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีปัจจัยที่อาจหนุนให้กลับมาแข็งค่าได้ เงื่อนไขที่อาจเปลี่ยนแปลงมุมมองของตลาด ได้แก่: 

  • ข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด: หาก CPI หรือ PCE สูงกว่าคาดการณ์ อาจทำให้ตลาดคาดว่าจะมีการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดขึ้นจากเฟด 
  • สัญญาณจากเฟดเรื่องการชะลอการลดดอกเบี้ย: ท่าทีแบบสายเหยี่ยวมากขึ้นอาจหนุนให้อัตราผลตอบแทนของดอลลาร์สูงขึ้น และดึงดูดเงินทุนไหลเข้า 
  • ภาวะตลาดที่กลับมาเน้นความเสี่ยงต่ำ: ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความปั่นป่วนในตลาดโลก อาจทำให้ดีมานด์กลับมาที่ดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 

กิจกรรมสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งอาจมีผลอย่างมาก ได้แก่: 

การประกาศตัวเลข CPI เดือนสิงหาคม: หากออกมาสูงเกินคาด อาจเปลี่ยนมุมมองของตลาดเกี่ยวกับนโยบายของเฟดอย่างรวดเร็ว 
รายงานการประชุมเฟดในเดือนกันยายน: หากมีท่าทีที่แข็งกร้าว ก็อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการฟื้นตัวของดอลลาร์ 

กลยุทธ์การลงทุนในภาวะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2025 แม้ความไม่แน่นอนเรื่องภาษีจะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ยังมีจุดสนับสนุนบางส่วนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนข้างหน้า 

สำหรับนักลงทุน การอ่อนค่าของดอลลาร์ถือเป็นโอกาสที่ดีในการตอกย้ำความสำคัญของ การกระจายการลงทุน การกระจายสินทรัพย์ข้ามสกุลเงินและภูมิภาคจะช่วยลดความเสี่ยง พร้อมเปิดโอกาสในการเติบโตระยะยาว 

สรุป: เส้นทางของค่าเงินดอลลาร์ในปี 2025 จะได้รับอิทธิพลจากการผสมผสานของนโยบายการเงิน ข้อมูลเศรษฐกิจ และมุมมองของตลาด การติดตามข้อมูลและปรับตัวอย่างคล่องแคล่วจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับนักลงทุนในการรับมือกับความผันผวนของตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยค่าเงิน 


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ D Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-08-21 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

หลังประชุม ทรัมป์–ปูติน จับตาสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนี้

ข่าวพาดหัวมาแล้วก็ผ่านไป ตลาดไม่ไหวติง แต่คุณอย่าเพิ่งตายใจ ใต้ผิวน้ำอันสงบนั้น มีบางสิ่งสำคัญเพิ่งเกิดขึ้น: ทรัมป์กับปูตินนั่งคุยกันแบบตัวต่อตัวที่อลาสกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา และเมื่อสองมหาอำนาจด้านภูมิรัฐศาสตร์เปิดปากพูดคุยกัน หลังความเงียบอันเย็นเยียบหลายปี ผลกระทบที่ตามมาอาจไม่ฉับไวเหมือนการขึ้นดอกเบี้ย แต่แรงกระเพื่อมจะรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อมันเริ่มเคลื่อนไหว  และเมื่อมันระเบิดขึ้นมา ก็จะไม่มีคำว่าเบาเลย  นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่มันอาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่จะพลิกโฉมตลาดพลังงาน พันธมิตรระหว่างประเทศ และแม้แต่การคาดการณ์เงินเฟ้อที่กำลังมุ่งหน้าสู่ปี 2026.  การประชุมที่ (เงียบๆ) แต่เขยื้อนตลาดได้  ต่างจากซัมมิตทั่วไปที่เต็มไปด้วยข่าวพาดหัวและวาทะเร้าอารมณ์ การพบกันของทรัมป์–ปูตินครั้งนี้กลับเรียบง่ายอย่างน่าประหลาด  ไม่มีข้อตกลงสันติภาพ ไม่มีการเจรจาทะลุทางตัน ไม่มีการจับมือบนเวทีใหญ่พร้อมแสงสีเสียงอลังการ  แต่นั่นแหละ คือเหตุผลที่มันสำคัญ  เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ดูเหมือนว่าวอชิงตันกับมอสโกจะกลับมาคุยกันอีกครั้งในเบื้องหลัง และในโลกของสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก การสื่อสารคือสินทรัพย์ โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งในยูเครนยังไม่มีวี่แววจะยุติ  นักเทรดเริ่มตั้งคำถามกันแล้วว่า: หรือว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายความตึงเครียด?  ทำไมสินค้าโภคภัณฑ์นี้ควรอยู่ในเรดาร์ของคุณ  อย่าอ้อมค้อมเลย: มันคือน้ำมัน  แม้จะไม่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาทันที แต่นักเทรดรู้ดีว่าเมื่อใดที่มีสัญญาณแห่งสันติภาพ แม้เพียงแค่จุดเริ่มต้น ก็อาจทำให้เส้นทางการขนส่งที่ถูกปิดกลับมาเปิดได้ มาตรการคว่ำบาตรอาจผ่อนคลายลง และค่าความเสี่ยงที่ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย–ยูเครนอาจเริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าตลาดพลังงานทั้งหมด  ตำแหน่งถือครองแบบเก็งกำไรฝั่ง Long ในน้ำมันดิบ WTI ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 […]

article-thumbnail

2025-08-15 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ค่าเงินดอลลาร์จะยังคงร่วงต่อในปี 2025 หรือไม่? เจาะลึกแนวโน้มสำคัญ 

การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ทำให้หลายฝ่ายประหลาดใจ ดัชนีดอลลาร์ (DXY) บันทึกการร่วงลงในช่วงครึ่งปีแรกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 โดยดิ่งลงอย่างรุนแรงก่อนจะดีดตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม แม้การฟื้นตัวนั้นจะช่วยชดเชยบางส่วนที่สูญเสียไป แต่นักวิจัยจาก Morgan Stanley คาดว่าการอ่อนค่ายังไม่จบ และดอลลาร์อาจร่วงลงอีก 10% ภายในสิ้นปี 2026  แล้วอะไรคือเบื้องหลังการร่วงของดอลลาร์ในปี 2025? และมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะกลับมาฟื้นตัว? มาค้นหาคำตอบกัน  สรุปภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ – ครึ่งปีแรกของปี 2025  ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 ดัชนี DXY ร่วงลงประมาณ 10.8% ซึ่งถือเป็นผลงานครึ่งปีแรกที่ย่ำแย่ที่สุด นับตั้งแต่การร่วงลง 14.8% เมื่อต้นปี 1973  นักวิเคราะห์ชี้ถึง 2 แรงกดดันสำคัญ:  ทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลกดดันอย่างหนักต่อค่าเงินดอลลาร์  ทำไมดอลลาร์อ่อนค่าลงในปี 2025  1. ภาษีและความไม่แน่นอนด้านนโยบาย บั่นทอนแรงหนุนของดอลลาร์  ท่าทีของทรัมป์ที่เปลี่ยนแปลงไปในเรื่องภาษีและการปฏิรูปภาษี สร้างแรงกดดันระยะยาวต่อค่าเงินดอลลาร์ มาตรการกีดกันทางการค้าไม่เพียงแต่สร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลก แต่ยังทำลายความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกสหรัฐฯ  ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายยังสร้างความกังวลให้นักลงทุน ลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์ และยิ่งตอกย้ำแนวโน้มขาลงของค่าเงิน  2. […]

article-thumbnail

2025-07-31 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ–อียู มาแล้ว: แล้วจีนล่ะ จะตามมาหรือไม่? 

เมื่อทรัมป์และฟอน แดร์ ไลเอิน จับมือกันที่สกอตแลนด์ในวันที่ 27 กรกฎาคม มันไม่ใช่แค่ภาพที่สวยงามต่อหน้ากล้อง แต่มันคือจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เป็นจริง  ข้อตกลงการค้าฉบับใหญ่ระหว่างอียูและสหรัฐฯ ถูกปิดดีล ภาษีถูกลดลง และตลาดก็หายใจได้ทั่วท้อง แต่ตอนนี้สปอร์ตไลต์กำลังหันไปที่จีนอย่างรวดเร็ว และทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่  พวกเขาจะเป็นรายต่อไปที่เข้าร่วมดีลหรือไม่… หรือสงครามการค้ากำลังจะยืดเยื้อต่อไป?  ประเด็นสำคัญจากข้อตกลงการค้าระหว่างอียู–สหรัฐฯ  เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2025 สหรัฐฯ และอียูได้ตกลงกันในข้อตกลงที่จะกำหนด ภาษี 15% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่จากอียูที่เข้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอัตราครึ่งหนึ่งจากที่เคยขู่กันไว้ และช่วยป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามต่อไป รายละเอียดสำคัญได้แก่:  ตลาดตอบรับอย่างดีที่สงครามการค้าถูกหลีกเลี่ยง ดัชนีฟิวเจอร์สของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางส่วนเตือนว่าข้อตกลงนี้อาจเทน้ำหนักไปทางฝั่งสหรัฐฯ มากเกินไป  ทำไมข้อตกลงนี้จึงสำคัญต่อตลาด  สำหรับวอลล์สตรีท นี่ไม่ใช่แค่การจับมือธรรมดา แต่มันคือความโล่งใจ ตลาดให้ความสำคัญสูงสุดกับสิ่งหนึ่งคือ ความชัดเจน และนั่นคือสิ่งที่ข้อตกลงการค้าระหว่างอียู–สหรัฐฯ ฉบับนี้มอบให้  ดัชนีหุ้นหลายตัวกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง และบรรยากาศ “รับความเสี่ยง” ก็กลับมาครองถนนอีกครั้ง แต่จุดที่ต้องระวังคือ แม้ภาษีใหม่จะดูเบากว่าการขู่ในอดีต แต่ก็ยังเพิ่มต้นทุนให้ผู้ส่งออกฝั่งยุโรป และอาจส่งผลถึงผู้บริโภคชาวอเมริกันด้วย  ผู้เล่นระดับโลกในอุตสาหกรรมรถยนต์ ยา และเซมิคอนดักเตอร์ ตอนนี้ต้องเล่นตามกฎใหม่ […]