เพื่อผลลัพธ์การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ กับบัญชี MAM/PAMM จาก Doo Prime

2022-02-24 | Doo Prime , MAM/PAMM

การมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นคือเป้าหมายหลักในการลงทุน โดยเฉพาะในปัจจุบันการลงทุนออนไลน์คือหนึ่งในวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน เราอาจเข้าใจว่าการเริ่มต้นลงทุนออนไลน์จะต้องให้เวลาในการติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่าเรามีเครื่องมือที่จะช่วยให้การลงทุนของคุณสะดวกและง่ายดายมากกว่าที่หลายๆ คนคาดคิดด้วย MAM/PAMM 

MAM/PAMM หรือ Multi-Account Manager (MAM) และ Percentage Allocation Management Module (PAMM) ซึ่งหมายถึงระบบการจัดการมัลติฟังก์ชั่น หรือระบบบัญชีที่จะช่วยจัดการบัญชีย่อยการซื้อขายหลายร้อยบัญชีภายใต้บัญชีหลักเดียว นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินการด้วยเวลาแฝงที่ต่ำมาก และแน่นอนว่าจะช่วยให้ประสบการณ์การลงทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยการจัดการเงินนี้ บัญชีที่จัดการของคุณจะเชื่อมต่อกับบัญชีหลักของผู้จัดการบัญชี และการซื้อขายทั้งหมดที่จัดการโดยผู้จัดการจะสะท้อนตามสัดส่วนในบัญชีของลูกค้า 

เลือกใช้บัญชี MAM/PAMM จาก Doo Prime เพื่อการจัดการบัญชีอย่างมืออาชีพ

บัญชี MAM/PAMM จาก Doo Prime ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดเตรียมกองทุนและเครื่องมือการจัดสรรคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนมืออาชีพและผู้จัดการกองทุน เรียกได้ว่าเป็นระบบแบ็กเอนด์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักลงทุน ที่ต้องการจัดการบัญชีแบบกลุ่มโดยเฉพาะ

โดยนักลงทุนสามารถใช้ติดตามผู้จัดการกองทุน PAMM/MAM และประสบการณ์การซื้อขายที่หลากหลาย ผู้จัดการกองทุนจะจัดการจากส่วนกลางในนามของการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นการยังมอบโซลูชันการจัดการบัญชีแบบมืออาชีพสำหรับผู้จัดการกองทุนมืออาชีพอีกด้วย 

ระบบ MAM/PAMM ที่หลากหลายของ Doo Prime รองรับวิธีการดำเนินการตามคำสั่งที่หลากหลาย เช่น คำสั่งที่รอดำเนินการ หยุดการขาดทุน การทำกำไร และการปิดบางส่วน นอกจากนี้ยังจัดการการจัดสรรกำไร/ขาดทุน การจัดสรรคำสั่งซื้อตามมูลค่าสุทธิ และอัตราส่วนสุทธิ อีกด้วย

แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ของ Doo Prime ยังผสานรวมกับบัญชี STP และคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับ บัญชี ECN โดย บัญชี ECN จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการซื้อขายในตลาดแบบเรียลไทม์โดยส่งคำสั่งซื้อไปยังตลาดโดยตรง

แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งที่มุ่งตอบสนองโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับคุณโดยเฉพาะ

ในขณะที่การซื้อขาย Forex มีวิวัฒนาการตลอดเวลา Doo Prime ยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอโซลูชันสำหรับประสบการณ์การซื้อขายหรือการลงทุนที่สำคัญซึ่งครอบคลุมทุกด้าน 

Doo Prime แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่เป็นนวัตกรรมซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหลากหลายแบรนด์ย่อยจาก Doo Group ไม่ว่าจะเป็น Doo Tech และ Doo Clearing ซึ่งจะช่วยให้นักบวทุนสามารถลงทุนทั่วโลกผ่านบัญชีซื้อขายออนไลน์ได้ในบัญชีเดียว 

Doo Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการซื้อขายทางการเงินระดับเฟิร์สคลาสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับลูกค้าของเราทั่วโลก 

ด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงินที่แข็งแกร่ง วิธีการฝากและถอนที่สะดวกสบาย และบริการระดับมืออาชีพที่ให้บริการได้หลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด เพื่อให้ Doo Prime สามารถมอบประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ 

ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ dooprimenews.com

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Email :  [email protected]
Line Official : https://bit.ly/3vd0zuM

+44 11 3733 5199(ยุโรป)
+852 3704 4241(เอเชีย)
+86 400 8427 539(เอเชีย – ประเทศจีน)

 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป