เกาหลีใต้เผยดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุลในเดือนมี.ค.

2023-05-10 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BoK) เปิดเผยในวันนี้ (10 พ.ค.) ว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมี.ค.ของเกาหลีใต้ พลิกกลับมาเกินดุลอีกครั้ง หลังจากขาดดุลติดต่อกัน 2 เดือน แต่เผชิญภาวะขาดดุลรายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 14 ปีสำหรับไตรมาส 1/2566 (เดือนม.ค.– มี.ค.)

รายงานระบุว่า เกาหลีใต้มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 270 ล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. หลังจากขาดดุลติดต่อกัน 2 เดือน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 33.68 แข็งค่าสุดในภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรหนุน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.68 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสุดในภูมิภาคเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนต่างประเทศ (FLOW) ที่ไหลเข้า มาในตลาดพันธบัตร โดยเมื่อวานมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาอีกราว 2.5 หมื่นล้านบาท

“บาทแข็งค่าลงมามากจากเย็นวานนี้ เช้านี้ลงมาใกล้ระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากช่วงนี้มี FLOW ไหลเข้ามาพัก ในตลาดพันธบัตรระยะสั้นเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องดูว่าผู้นำเข้าและส่งออกจะมีท่าทีอย่างไร วันนี้บาทมีโอกาสแข็ง ค่าไปทดสอบที่ระดับ 33.59 (บาท(/ดอลลาร์)”

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ไบเดน-ปธ.สภาผู้แทนฯสหรัฐคว้าน้ำเหลวเจรจาเพดานหนี้ เล็งหารืออีกศุกร์นี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากเข้าร่วมการเจรจาในเรื่องดังกล่าวที่ทำเนียบขาวในวันอังคาร (9 พ.ค.) อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะกลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์นี้ (12 พ.ค.) ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ โดยปัจจุบันเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังจากที่ใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 1 ชั่วโมงที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ปธน.ไบเดน และนายเควิน ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ในขณะที่ความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.กำลังใกล้เข้ามา อย่างไรก็ดี คาดว่าการเจรจาของเจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วยจะยังคงเดินหน้าต่อไป

อ้างอิง อินโฟเควสท์

น้ำมันขยับลดลง สหรัฐฯ จะเติมน้ำมันดิบเข้าคลังสำรอง จับตารายงาน CPI 

Investing.com — ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงต้นของตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่การคาดการณ์ข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยวันนี้ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะเสี่ยง

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารของสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงได้ช่วยให้ตลาดหยุดขาดทุนในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าทำเนียบขาววางแผนที่จะเริ่มเติมน้ำมันเข้าคลังสำรอง SPR ซึ่งลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปีในปีที่ผ่านมา และยังส่งสัญญาณซื้อไปยังตลาดอีกด้วย

อ้างอิง Investing.com

ทองคำปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นก่อนรายงาน CPI

Investing.com — ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือแนวรับสำคัญในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเพดานเงินหนี้ของสหรัฐฯ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยตลาดยังคงให้ความสนใจกับรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญที่จะเปิดเผยในท้ายวันนี้

การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้กำหนดนโยบายของพรรครีพับลิกันเมื่อวันอังคารสิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าที่จับต้องได้ในการเพิ่มวงเงินหนี้ของรัฐบาลกลาง แม้ว่าไบเดนจะย้ำว่าสหรัฐฯ จะไม่ผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม

อ้างอิง Investing.com

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป