สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2565

2022-07-26 | Current Affairs , ข่าวสารการลงทุน

This image has an empty alt attribute; its file name is ข่าวอันใหม่.jpg

— นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันในการเลือกตั้งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมกล่าวเมื่อวันจันทร์ (25 ก.ค.) ว่า เธอจะดำเนินการกับบริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่าง ติ๊กต็อก หากเธอชนะการเลือกตั้ง

“เราควรจะดำเนินการกับบริษัทประเภทนั้น” นางทรัสส์กล่าวเมื่อถูกถามในการโต้วาทีทางสถานีโทรทัศน์ของบีบีซีว่า เธอจะคุมเข้มบริษัทเทคโนโลยีของจีนหรือไม่

— จีนเปิดเผยว่า พร้อมที่จะตอบโต้อย่างเต็มที่ด้วยมาตรการรุนแรง หากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยังคงดำเนินการตามแผนที่จะเดินทางเยือนไต้หวัน

ไฟแนนเซียล ไทม์สรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า นางเพโลซีจะนำคณะผู้แทนเดินทางเยือนไต้หวันในเดือนส.ค. ซึ่งการเดินทางดังกล่าวจะทำให้นางเพโลซีเป็นสมาชิกสภาสหรัฐระดับสูงสุดที่เดินทางไปเยือนไต้หวันนับตั้งแต่ปี 2540

— ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้กับผู้บริหารของบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน คอร์ป, เมดทรอนิค และคัมมินส์ อิงค์ พร้อมกับผู้นำแรงงาน

การประชุมดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐในการผลักดันกฎหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

— นายยูริ วาสคอฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน กล่าวว่า ยูเครนจะเริ่มส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์ด้านอาหารในวันอังคารนี้ (26 ก.ค.) แม้รัสเซียโจมตีท่าเรือโอเดสซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ภายในวันอังคารนี้ เราจะเริ่มการส่งออกผลผลิตการเกษตรผ่านทางท่าเรือของเรา โดยจะมีการเปิดท่าเรือชอร์โนมอร์สก์เป็นแห่งแรก ตามมาด้วยโอเดสซาและพิฟเดนยี และในอีก 2 สัปดาห์ เราจะเปิดท่าเรือทุกแห่งอย่างถาวรเพื่อส่งออกสินค้าเกษตร” นายวาสคอฟกล่าว

— นายแพทย์เควิน โอคอนเนอร์ ซึ่งเป็นแพทย์ประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐวัย 79 ปี ใกล้หายดีเป็นปกติ หลังได้รับการรักษาโรคโควิด-19

“ท่านประธานาธิบดีแจ้งแต่เพียงว่ามีอาการคัดจมูก และเสียงแหบเล็กน้อย” นายแพทย์โอคอนเนอร์ระบุ

นายแพทย์โอคอนเนอร์ยังเปิดเผยว่า ปอดของปธน.ไบเดนไม่มีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด และตอบรับต่อการรักษาเป็นอย่างดี

— ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะปิดกังหันสูบก๊าซอีก 1 ชุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 เพื่อทำการซ่อมบำรุง ซึ่งจะทำให้รัสเซียต้องลดปริมาณการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งดังกล่าว

ก๊าซพรอมเปิดเผยว่าการปิดกังหันดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการส่งก๊าซเหลือเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 11.00 น.ของวันที่ 27 ก.ค.ตามเวลาไทย จากระดับมากกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการส่งก๊าซผ่านท่อส่งดังกล่าว

— สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ RD มีแผนที่จะขายธุรกิจแฟรนไชส์ของเคเอฟซีในประเทศไทย คิดเป็นวงเงินราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า RD ร่วมกับกลุ่มทุนที่นำโดย AIGF Advisors Pte Ltd กำลังอยู่ในกระบวนการเจรจากับบริษัทที่ปรึกษาอย่างน้อยหนึ่งแห่งเกี่ยวกับการขายกิจการดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ RD ได้เคยพิจารณาที่จะขายธุรกิจเคเอฟซีในปี 2563 แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้การเจรจาต้องเลื่อนออกไป

— ราคาสัญญาล่วงหน้าข้าวสาลีที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT พุ่งขึ้น 3% สู่ระดับ 7.8 ดอลลาร์/บุชเชลในวันจันทร์ (25 ก.ค.) หลังจากที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มท่าเรือเมืองโอเดสซาทางตอนใต้ของยูเครนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ราคาสัญญาข้าวสาลีดิ่งลงเกือบ 6% เมื่อวันศุกร์แตะระดับก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังมีการลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครน

ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มท่าเรือเมืองโอเดสซาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครน

— รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยจากการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในประเทศ โดยออกประกาศเตือนภัยในระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ

การประกาศเตือนภัยดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเช้านี้ ก่อนที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศในช่วงเย็นวันนี้ว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเป็นรายแรกในประเทศ โดยผู้ป่วยดังกล่าวเป็นชายในวัยราว 30 ปีซึ่งอาศัยในกรุงโตเกียว

ทั้งนี้ รัฐบาลเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว ส่วนประชาชนที่มีแผนเดินทางไปต่างประเทศก็ให้ใช้ความระมัดระวังเช่นกัน

— ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565, ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม และสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป