สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2565

2022-07-18 | Current Affairs , ข่าวสารการลงทุน

This image has an empty alt attribute; its file name is ข่าวอันใหม่.jpg

— ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่วันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ (15 ก.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

— ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 26-27 ก.ค.นี้อย่างใกล้ชิด

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 30% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันดังกล่าว และให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

การปรับลดการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะแตะระดับ 5.2% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 5.3% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

— นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส คอร์ป, เน็ตฟลิกซ์, เทสลา และทวิตเตอร์

ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ธนาคารมีกำไรและรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่ดีดตัวขึ้น และผลประกอบการที่แข็งแกร่งในธุรกิจเทรดดิ้ง

ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีกำไร 4.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.19 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.68 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.964 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.822 หมื่นล้านดอลลาร์

— คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยของจีน (CBIRC) เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ขยายวงเงินกู้ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการเงินสดของบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเพื่อเป็นการบรรเทาความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดกรณีผู้ซื้อบ้านไม่ยอมจ่ายค่าจำนองสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ

เจ้าหน้าที่ของ CBIRC ย้ำว่า ทางคณะกรรมการจะกระตุ้นให้รัฐบาลท้องถิ่นเร่งส่งเสริมการส่งมอบบ้าน และเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ขยายวงเงินกู้ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาด

— นางแคเทอรีนา รอชโควา ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางยูเครนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางยูเครนได้นำทองคำสำรองออกมาขายเป็นมูลค่า 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว นับตั้งแต่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.นี้

“เรานำทองคำในคลังสำรองออกมาขาย เพื่อนำเงินมาซื้อสินค้าที่จำเป็น อย่างไรก็ดี การขายทองคำสำรองไม่ได้มีเป้าหมายที่จะทำให้สกุลเงินฮริฟเนีย (hryvnia) ของยูเครนแข็งค่าขึ้น” นางรอชโควาเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของยูเครนเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.)

— กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมต่อเรือของจีนยังคงครองตำแหน่งผู้นำโลกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของโลกในด้านปริมาณผลผลิตสำเร็จ ปริมาณคำสั่งซื้อใหม่ และปริมาณคำสั่งซื้อคงค้าง

ข้อมูลจากกระทรวงฯ บ่งชี้ว่า ปริมาณผลผลิตสำเร็จของจีนแตะที่ 18.5 ล้านเดดเวทตัน (dwt) ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน โดยครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก 45.2%

— ผลการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) ระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) ซึ่งปัจจุบันเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ สามารถต้านทานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ถึง 4 เท่า

ผลการศึกษาพบว่า สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 สามารถต้านทานวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ได้มากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยก่อนหน้าอื่นๆ ถึง 4 เท่า ซึ่งรวมถึงวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา

— สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียจะเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค., ยูโรสแตทเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของยูโรโซน และสหรัฐเปิดเผยการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย.

อ้างอิง อินโฟเควสท์

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป