ญี่ปุ่นเผยดัชนีราคาผู้ผลิตชะลอตัวลงติดต่อกัน 4 เดือน

2023-05-15 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 7.4% และเป็นการชะลอตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวลดลง

ข้อมูลจาก BOJ ยังระบุด้วยว่า ดัชนีราคานำเข้าในรูปสกุลเงินเยนลดลง 2.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 9.6% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงและวัตถุดิบกำลังผ่านจุดสูงสุด

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ขุนคลังฟิลิปปินส์ส่งสัญญาณระงับขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อชะลอตัว

นายเบนจามิน ดิออกโน รัฐมนตรีคลังของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศกำลังชะลอตัวลง

การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายดิออกโนมีขึ้นก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 พ.ค.นี้ โดยเขายังคงเน้นย้ำถึงจุดยืนในการคัดค้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่าความคิดของเขาเป็นเพียงความเห็นในฐานะ 1 ใน 7 ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่จะลงคะแนนเสียงในการประชุมวันที่ 18 พ.ค.นี้

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 33.75 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค รับผลเลือกตั้งชัดเจน จับตา GDP ไทยเช้านี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.75 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 33.97 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางสวนทางกับค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่า เนื่องจากเงินบาทได้รับแรงหนุนจากผล การเลือกตั้งที่มีความชัดเจน แต่ต้องรอดูความคืบหน้าต่อไป เช่น สูตรจัดตั้งรัฐบาล การเลือกนายกรัฐมนตรี และวันนี้จะมีการแถลงตัวเลข GDP ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)

“บาทแข็งค่าสวนทางกับภูมิภาค เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากผลการเลือกตั้ง ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาทในวันนี้ตลาดน่าจะเป็น การย่อยข่าวการเมือง ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าจะเป็นปัจจัยจำกัดการแข็งค่าของเงินบาท”

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ราคาน้ำมันร่วงลงก่อนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุด

Investing.com — ราคาน้ำมันปรับตัวลงอีกในการซื้อขายตลาดเอเชียวันจันทร์นี้ หลังจากเข้าสู่ภาวะขาดทุนติดกันสี่สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยตอนนี้ตลาดมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะออกมามากขึ้นและคำแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

ตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนเพียงเล็กน้อยเนื่องจากข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าสภาวะเศรษฐกิจแย่ลงในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดสองรายของโลก สิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้มากในปีนี้ ซึ่งส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน

อ้างอิง Investing.com

ทองคำได้รับแรงกดดันอย่างรุนแรง หลังดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว

Investing.com — ราคาทองคำขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ ซึ่งขยายแนวโน้มขาลงของสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากความกลัวการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้อุปสงค์ที่ปลอดภัยถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังดอลลาร์

โฟกัสของตลาดในสัปดาห์นี้อยู่ที่ตัวชี้นำเพิ่มเติมจากการแถลงของกลุ่มสมาชิกเฟดในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดที่มีกำหนดการแถลงในวันศุกร์นี้

อ้างอิง Investing.com

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป