กำไรในจีนของวาณิชธนกิจทั่วโลกหดตัวปี 2565 เซ่นพิษโควิด-ปัญหาการเมือง

2023-05-22 | commodities , Current Affairs , Forex , Securities

ผลกำไรของโกลด์แมน แซคส์ มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารจากตะวันตกรายอื่น ๆ ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในจีน ทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2565 เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ได้บั่นทอนความหวังว่าการดำเนินธุรกิจในจีนอาจเริ่มกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในที่สุด

ทั้งนี้ สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ธุรกิจในจีนของเครดิต สวิส, ดอยซ์แบงก์, โกลด์แมน แซคส์ และ HSBC รายงานภาวะขาดทุนในปี 2565 ส่วนธุรกิจในจีนของมอร์แกน สแตนลีย์รายงานกำไรที่ลดน้อยลง โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ธนาคารแต่ละแห่งเผยแพร่ต่อสาธารณชน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ยอดส่งออกเกาหลีใต้ร่วง 16.1% เหตุอุตสาหกรรมชิปซบเซา

ศุลกากรเกาหลีเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดการส่งออกของเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 1-20 พ.ค.ปีนี้ อยู่ที่ 3.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 16.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 3.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุหลักมาจากอุตสาหกรรมชิปทั่วโลกตกต่ำเป็นเวลานาน

ส่วนการนำเข้าลดลง 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้เกาหลีใต้ขาดดุลการค้า 4.3 พันล้านดอลลาร์

อ้างอิง อินโฟเควสท์

ปธ.เฟดมินเนอาโพลิสออกโรงหนุนเฟดตรึงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิสเปิดเผยว่า เขาจะสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอดีตและแนวโน้มเงินเฟ้อ

นายแคชแครีให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของวอลล์สตรีท เจอนัลเมื่อวานนี้ว่า “ผมยินดีกับแนวคิดที่ว่าเราสามารถดำเนินการด้านนโยบายให้ช้าลงเล็กน้อยจากจุดนี้ อย่างไรก็ดี ผมยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายการที่การประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. และผมไม่เห็นด้วยกับการออกแถลงการณ์ใดๆ ที่บ่งบอกว่าภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อของเราเสร็จสิ้นแล้ว”

อ้างอิง อินโฟเควสท์

น้ำมันขยับลดลงในขณะที่ตลาดรอความคืบหน้าการเจรจาเพดานหนี้

Investing.com — ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงต้นของตลาดเอเชียวันนี้ ขยายการขาดทุนเป็นเซสชั่นที่สาม เนื่องจากตลาดกำลังรอความคืบหน้าเพิ่มเติมในการเจรจาเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ในขณะที่ยังคงให้ความสนใจกับอุปทานที่อาจหยุดชะงักในอเมริกาเหนือ

ฝ่ายนิติบัญญัติของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมีกำหนดกลับมาเจรจาเรื่องการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายในวันจันทร์นี้ หลังจากการเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเตือนถึงเส้นตายกลางเดือนมิถุนายนสำหรับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ

อ้างอิง Investing.com

ทองทรงตัวต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ การเจรจาเพดานหนี้ยังดำเนินต่อไป 

Investing.com — ราคาทองคำขยับเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้าของวันจันทร์ เนื่องจากตลาดรอการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ โดยยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการเงินตามแนวทางที่หลากหลายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเควิน แมคคาร์ธีประธานสภามีกำหนดจะหารือกันต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ในวันนี้ หลังจากการเจรจาล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยต้องได้ข้อสรุปก่อนเส้นตายกลางเดือนมิถุนายนซึ่งทำให้ตลาดตกอยู่ในความเสี่ยงในขณะนี้

อ้างอิง Investing.com

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป