การแข่งขันการเทรดการกุศล #DooTrader Charity Cup ครั้งที่ 2 พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

2021-10-13 | #S2การแข่งขันการเทรด

เข้าร่วมแข่งขันวันนี้ พร้อมรับรางวัลพิเศษสุดสำหรับคุณ!

คุณยังเชื่อมั่นในความสามารถในการเทรดของตนเองอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในท่ามกลางภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ 

หากคำตอบคือใช่ เราขอแนะนำการแข่งขันการเทรดการกุศล #DooTrader Charity Cup Global Trading ครั้งที่ 2 โอกาสดีๆ ที่ไม่เพียงจะช่วยสร้างโอกาสให้คุณทำกำไรได้มากกว่าพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเพื่อองค์กรระดับโลก และรางวัลเงินสดรวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ

การกลับมาอีกครั้งของการแข่งขันเทรดการกุศลระดับโลก

การแข่งขันเทรดการกุศล #DooTrader Charity Cup Global Trading ครั้งนี้มีการพัฒนารูปแบบการแข่งขันให้ตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์หรือผู้เข้าแข่งขันมากขึ้น ด้วยความหลากหลายของตลาดการลงทุนทั่วโลกกว่า 6 ที่แห่ง มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์การเงินกว่า 10,000 รายการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถจัดสรรการลงทุนได้อย่างเหมาะสมเพื่อผลประโยชน์สูงสุด โดยแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 สเตจ คือโดยสเตจแรก คือ การรแข่งขันอบแรกและรอบรองชนะเลิศ ส่วนสเตจที่ 2 คือการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผู้เข้าสามารถเลือกเข้าร่วมสามารถแข่งขัน 2 ประเภทคือ แบบ Classic และ แบบ Master 

แน่นอนว่าการแข่งขันเทรดครั้งนี้ยังคงดำเนินการเพื่อการกุศลเช่นเดียวกับการแข่งขันในครั้งแรก ที่ Doo Prime จะบริจาค 0.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กผู้ยากไร้ทั่วโลก เพราะเราเชื่อมั่นว่าการศึกษาและความรู้ที่ได้มานั้นสามารถเปลี่ยนโชคชะตาได้ ดังนั้นจึงอยากนำความหวังมาสู่คนรุ่นต่อไปด้วย #DooTrader 

รางวัลและโบนัสเพิ่มเติมที่คุณไม่ควรพลาด! 

พบกับการกลับมาอีกครั้งของรางวัลชนะเลิศมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ ที่พร้อมรอคุณอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถรับโบนัสเพิ่มเติมจากโปรแกรมแนะนำเพื่อนที่ชวนได้ไม่มีจำกัด “ร่วมฉลองชัยชนะไปพร้อมกันเพื่อนและคนรู้จัก” ให้คุณรับเพิ่มอีก 12 ดอลลาร์

ชนะคนใหม่ของ #DooTrader อาจเป็นคุณ  

ผู้ร่วมแข่งขัน #DooTrader ทุกคนไม่เพียงแต่จะได้รับรางวัลเงินสดเท่านั้น แต่ยังจะได้รับการประกาศเกียรติคุณในการเข้าร่วมอีกด้วย นอกจากนี้จะมีการสัมภาษณ์ผู้มีคะแนนสะสมสูงสุด 10 ท่าน บนเวทีระดับของเราอีกด้วย 

  
ก้าวแรกสู่การแข่งขันเทรดการกุศล #DooTrader Charity Cup Global Trading ครั้งที่ 2 

1. ตรวจสอบไซต์การแข่งขัน DooTrader.com/th) หรือสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ผ่านทาง QR ด้านล่าง 
2. หากมีบัญชี Doo Prime อยู่แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบการแข่งขัน เพียงคลิกที่ “เข้าสู่ระบบ” และหากยังไม่มีบัญชีของเราสามารถคลิก “เข้าร่วมตอนนี้” ที่มุมขวาบน 
3. เมื่อทำการสมัครและเปิดบัญชีกับเราเรียบร้อยแล้ว สามารถไปที่ User Center เพื่อเปิดบัญชี MT4 สำหรับการแข่งขัน 
4. จากนั้นเลือกประเภทในการแข่งขันระหว่าง “Classic” หรือ “Master” เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน 
5. ทำการฝากเงินตามข้อกำหนดขั้นต่ำหรือ 2,000 ดอลลาร์ในประเภท Classic และ 10,000 ดอลลาร์ สำหรับประเภท Master
6. ท่าจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันทันทีหลังจากทำการฝากเงินเรียบร้อยแล้ว 

กำหนดการแข่งขันรอบแรก จะเริ่มขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 00:00 น. UTC (8:00 น. GMT) แล้วพบกันที่ #DooTrader 

การแข่งขันการเทรดการกุศล #DooTrader Charity Cup  
 
การแข่งขันนี้จัดขึ้นโดย Doo Prime โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพในการบริการและนำเสนอรูปแบบการลงทุน ด้วยความเชื่อว่าทัศนคติเชิงบวกต่อการลงทุนจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่ดีงามและยั่งยืน นอกจากนี้เรายังหวังว่าจะจัดให้มีเวทีการแข่งขันที่ยุติธรรมและเป็นกลางสำหรับเทรดเดอร์ในการลงทุนในการผลิตภัณฑ์ทางการเงินระหว่างประเทศที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น และค้นพบรูปแบบใหม่ของการซื้อขายทั่วโลกผ่านสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่เหนือกว่า 

สามารถตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขในการสมัครร่วมการแข่งขันได้ที่หน้าเว็บไซต์การแข่งขันอย่างเป็นทางการของเราที่ dootrader.com/th 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป