Trading Central พร้อมให้บริการแล้วในศูนย์ลูกค้าของเรา 

2024-09-10 | ข้อเสนอใหม่

Trading Central พร้อมให้บริการแล้วในศูนย์ลูกค้าของเรา 

Doo Prime ขอแจ้งให้ทราบว่า Trading Central ได้ถูกติดตั้งลงในศูนย์ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์การเทรด และช่วยให้การค้นหาโอกาสในการเทรดเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

Trading Central มีประโยชน์ย่างไร? 

  1. วางกลยุทธ์อย่างแม่นยำด้วยปฏิทินเศรษฐกิจ: 

ติดตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์ด้วยปฏิทินเศรษฐกิจ วางแผนการลงทุนอย่างแม่นยำและคว้าโอกาสสำคัญได้ทันทีที่เกิดขึ้น 

  1. ข้อมูลเชิงลึกด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค: 

เข้าถึงการวิเคราะห์แบบเดียวกับมืออาชีพ ด้วยข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์และมุมมองจากนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นตัวช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ 

  1. ยกระดับการเทรด Forex ด้วยแนวคิดที่โดดเด่น: 

รับข้อมูลเชิงลึกของตลาด Forex ด้วยไอเดียการเทรดที่คัดสรรมาอย่างดี ทุกไอเดียมาพร้อมการวิเคราะห์เชิงลึกและข้อมูลเรียลไทม์ ช่วยให้ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ 

  1. ยกระดับการเทรดด้วยอินดิเคเตอร์บนแพลตฟอร์ม MetaTrader: 

เพิ่มประสิทธิภาพการเทรดด้วยอินดิเคเตอร์ขั้นสูงจาก Trading Central ปลั๊กอินอินดิเคเตอร์เทคนิคเฉพาะของ TC เช่น Analyst Views ผสานการทำงานได้อย่างราบรื่น ให้คุณเข้าถึงเกณฑ์มาตรฐานและกลยุทธ์ได้โดยตรงจากกราฟแบบเรียลไทม์ 

ทำไมต้องเลือก Trading Central? 

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ และผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ นำหน้าเสมอด้วยการติดตามแบบเรียลไทม์ตลอด 24/7 ครื่องมือที่ปรับให้เหมาะกับทุกนักเทรด 
แพลตฟอร์มของเราให้คุณเข้าถึงการวิเคราะห์อย่างมืออาชีพจากนักวิเคราะห์มากประสบการณ์ ช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและะสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยเครื่องมือการเทรดกว่า 8,000 รายการที่พร้อมใช้งานและการติดตามตลอด 24 ชั่วโมง คุณจะพร้อมเสมอที่จะคว้าโอกาสในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าคุณจะเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือใช้กลยุทธ์เชิงตัวเลข Trading Central มีเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณโดยเฉพาะ 

ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้เพื่อปรับกลยุทธ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดให้ดียิ่งขึ้น ศึกษา Trading Central ได้แล้ววันนี้ในศูนย์ลูกค้าของ Doo Prime! 


การเปิดเผยความเสี่ยง
หลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินที่เป็นฐาน อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมากเกินกว่าการลงทุนเริ่มต้นของคุณภายในระยะเวลาอันสั้น 
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ กับเรา หากคุณไม่เข้าใจความเสี่ยงที่อธิบายไว้ที่นี่ คุณควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ การชักชวน หรือคำเชิญให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใด ๆ อีกทั้งไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลนี้และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลนี้หรือการลงทุนที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้ 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป