สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก

2023-10-19 | ตลาดหุ้น , ทอง , น้ำมัน , ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล , สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์

สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ได้กลายเป็นจุดสนใจของโลกแล้ว อีกทั้งยังมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าสงครามดังกล่าวอาจไม่หยุดอยู่แค่นั้น สิ่งที่ทำให้นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญกังวลคือสงความนี้มีโอกาสกลายเป็นความขัดแย้งที่บานปลายไปสู่สงครามระดับภูมิภาคที่ใหญ่ขึ้น สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งแต่เพียงเท่านั้น แต่เป็นกระแสที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราได้ ความขัดแย้งนี้เป็นสิ่งกำหนดอนาคตของตลาดการเงินและของโลก 

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าสถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อภูมิรัฐศาสตร์โลกอย่างไร รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ตลาดหุ้น ราคาทองคำ และตลาดน้ำมัน 

ภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์เบื้องหลังสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ 

ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เป็นปัญหาที่มีมายาวนานโดยมีรากฐานมาจากปี 1948 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา 

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมาก เนื่องจากไม่ได้เป็นเพียงปัญหาในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่กว่าอีกด้วย 

กลุ่มฮามาส ซึ่งบางคนมองว่าเป็นกลุ่มต่อต้านปาเลสไตน์ และกลุ่มอื่นๆ ตราหน้าว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย โจมตีอิสราเอล และสังหาร/จับกุมทหารและพลเรือนอิสราเอลราวพันคน อิสราเอลตอบสนองโดนดำเนินการิการทางทหารซึ่งส่งผลให้สมาชิกฮามาสจำนวนมากและพลเรือนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายพันคน โดยเป็นการกระทำเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาส อย่างไรก็ตาม มีเรื่องราวที่ซับซ้อนมากว่านั้นอยู่ข้างหลัง 

กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) มีภารกิจที่นอกเหนือไปจากการตอบโต้ทางการทหาร พวกเขาต้องการกำจัดกลุ่มฮามาสและกำจัดชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดน นี่คือการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของความขัดแย้งครั้งใหญ่ 

ความขัดแย้งได้เริ่มลุกลามไปยังหลายพื้นที่ โดยเลบานอนและซีเรียกำลังพยายามสร้างแรงกดดันตามแนวชายแดนอิสราเอล 

ยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น ประเทศใหญ่ๆ เช่น อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย จีน สหรัฐอเมริกา และบางประเทศในสหภาพยุโรปก็กำลังเข้ามามีส่วนร่วม รัสเซีย จีน และซาอุดีอาระเบียต้องการวิธีแก้ปัญหาอย่างสันติ และกล่าวว่าการกระทำของอิสราเอลเป็นมากกว่าการป้องกันตัวเอง ในทางกลับกัน สหรัฐอเมริกาและบางประเทศในสหภาพยุโรปก็สนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน 

สถานการณ์นี้เผยให้เห็นถึงความซับซ้อนของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในระดับนานาชาติ โดยความขัดแย้งนี้เชื่อมโยงประเทศมหาอำนาจที่มีส่งผลกระทบต่อโลก และสิ่งที่ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ส่งผลกระทบต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ มหาเศรษฐีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เรย์ ดาลิโอ กล่าวว่ามีโอกาส 50% ที่จะเกิดสงครามโลก เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสมีแนวโน้มว่าจะขยายและบานปลายขึ้น 

แต่คำถามก็คือ ตลาดจะตอบสนองอย่างไรกับสถานการณ์นี้อย่างไร มาร่วมหาคำตอบ  

การโจมตีของกลุ่มฮามาส ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหยุดเพิ่มขึ้นชั่วคราว 

เฟดเน้นย้ำแผนการเรื่อง “อัตราดอกเบี้ยที่สูงในระยะยาว” โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเงินเฟ้อไว้ที่ 2% อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าแผนการนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายด่าย หากจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองต่อปัจจัยภายนอกที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเฟดปรับนโยบายการเงินโดยการลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือศูนย์ และพิมพ์เงินหลายล้านล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ อาจเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันได้หากสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น นักลงทุนควรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  

ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับที่เคยพบเห็นครั้งล่าสุดในปี 2007 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจกลับมารุนแรง ในครั้งนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อกลุุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอล เหตุการณ์นี้ทำให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นชั่วคราว เนื่องจากนักลงทุนกำลังคาดการณ์ว่าเฟดอาจพิจารณาจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตนอีกครั้ง และปรากฎว่าสมาชิกเฟดบางส่วนบอกเป็นนัยหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส มีแนวโน้มสูงมากที่เฟดจะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 

นักลงทุนควรจับตาดูอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการเปลี่ยนแปลงของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอาจมีความสำคัญมาก 

ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงทนต่อสถานการณ์ปัจจุบันได้ 

แม้ว่าตลาดตราสารทุนจะอยู่ในช่วงขาลงอย่างรุนแรงเมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลว่าอาจเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่หุ้นสหรัฐฯ ก็ท้าทายพลังลบเหล่านี้อีกครั้งด้วยการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้หลังเกิดเหตุการณ์การโจมตีของกลุ่มฮามาส 

สาเหตุหลักประการหนึ่งคืออัตราผลตอบแทนลดลง ซึ่งบ่งบอกว่าเฟดอาจตัดสินใจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย  สิ่งที่น่าสนใจคือการโจมตีในฉนวนกาซาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อาจทำให้เฟดมีเหตุผลที่ดีที่จะปรับนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากสถานการณ์แย่ลง 

ตราบใดที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงลดลง ก็มีแนวโน้มว่าเราจะได้เห็นหุ้นขึ้นต่อไป 

ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนทั่วไปเชื่อที่บ่งบอกว่าสงครามสามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดได้จริง โดยปกติแล้ว เมื่อเกิดสงคราม ตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน สามารถดูแนวโน้มของเหตุการณ์นี้ได้จากแผนภูมิด้านล่าง 

ถึงเวลาของราคาทองคำแล้วหรือยัง 

จากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าราคาทองคำจำเป็นต้องมีตัวเร่งที่สำคัญเพื่อทะลุผ่าน psychological barrier ที่ USD 2000 ความขัดแย้งที่ไม่คาดคิดเมื่อเร็ว ๆ นี้อาจเป็นเพียงตัวเร่งที่เรากำลังรอคอยอยู่ ผู้ขายชอร์ตทองคำพบว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าทึ่งมากกว่า 5% ภายในไม่กี่วัน นักลงทุนหันมาหาทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนที่ลดลงยังเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มลงทุนในทองคำ 

ภาวะกระทิงของตลาดทองคำยังคงนิ่งอยู่แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ ตามแผนภูมิด้านล่างแสดงให้เห็นว่าทองคำมีประสิทธิภาพเหนือกว่าหุ้นอย่างชัดเจนหลังจากการกลับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 

ราคาน้ำมัน: ความสงบก่อนเกิดพายุเฮอร์ริเคน 

ในการวิเคราะห์ครั้งก่อน เราคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นไปถึง 90-100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล สาเหตุหลักมาจากการลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาราคาน้ำมันก็ขึ้นสูงสุดที่ 95 เหรียญสหรัฐฯ ก่อนที่จะกลับมาอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในปัจจุบันรู้สึกงุนงงกับการที่ราคาน้ำมันไม่พุ่งขึ้นภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอล 

ตลาดน้ำมันไม่น่าจะอยู่ได้อย่างสงบอยู่ต่อไป หากพิจารณาจากเหตุการณ์ปิดล้อมฉนวนกาซาและความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะบุกโจมตีภาคพื้นดินเพื่อโค่นล้มอำนาจของกลุ่มฮามาส 

อย่างไรก็ตาม การกำจัดกลุ่มฮามาสจะทำให้อิสราเอลต้องมีส่วนร่วมในการสู้รบในเมือง ซึ่งอาจกินเวลานานหลายเดือน ความขัดแย้งนี้น่าจะสร้างแรงกดดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น 

ในขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลงและมีชาวปาเลสไตน์ต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้น มีแนวโน้มว่ารัฐบาลในตะวันออกกลางจะมารวมตัวกันเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ 

ความเข้าใจระหว่างสหรัฐฯ อิสราเอล และซาอุดีอาระเบียดูเหมือนจะไม่ถูกต้องอีกต่อไป โดยปัจจัยนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากอุปทานน้ำมันมีเหลือน้อยแล้ว และราคาค่อนข้างสูง เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือซาอุดีอาระเบียและโอเปกได้ลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรล 

สิ่งนี้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อน้ำมันในช่วงเวลาที่ตลาดน้ำมันดิบขาดดุลอยู่แล้ว และราคาอยู่ที่แถบบนของช่วงประวัติศาสตร์ 

นอกเหนือจากนั้น รัสเซียและอิหร่านรวมกันเป็น 23% ของการส่งออกน้ำมันทั่วโลก การกำจัดอุปทานนี้แม้แต่เศษเสี้ยวเดียวก็อาจจะผลักดันราคาน้ำมันให้ไปสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นในจุดเริ่มต้นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

การจัดการความเสี่ยงในโลกที่มีความไม่แน่นอน 

ในโลกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน การรอบคอบและระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ 

เราใกล้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพ เศรษฐกิจ และตลาดพลังงานของโลก ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจก่อให้เกิดวิกฤติในตะวันออกกลางและปัญหาน้ำมันระดับโลกครั้งใหม่ โปรดจำไว้ว่าในการซื้อขายและการลงทุน ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการทำนายอนาคต แต่ยังเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงด้วย ลงทุนให้ปลอดภัยและตัดสินใจเทรดอย่างชาญฉลาด 

| เกี่ยวกับ Doo Prime          

เครื่องมือการซื้อขายของเรา        

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น       

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน       

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก        

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 22 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ        

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก        

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ        

โทรศัพท์        
ยุโรป : +44 11 3733 5199          
เอเชีย : +852 3704 4241           
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415          
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539            

อีเมล      
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected]          
ฝ่ายขาย [email protected]         

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)           

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)         

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต          

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้         

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้     

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง        

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย        

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง    

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย        

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป