DooTrader รอบที่ 2 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว การแข่งขันอันดุเดือดเพื่อเงินรางวัลยังคงดำเนินต่อไป – การแข่งขันเทรดการกุศล S3 #DooTrader

2022-11-07 | #DooTrader , #S2การแข่งขันการเทรด , #S3การแข่งขันการเทรด

การแข่งขัน S3#DooTrader Charity Cup Global Trading ในรอบแรกได้ประกาศผลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการแข่งขันในรอบสองที่เข้มข้นกำลังตามมาติดๆ โดยจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2022 นี้ เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นผู้ที่ร่วมเล่นมาก่อนหรือเพิ่งเข้าร่วมก็ตาม ด้วยเงินรางวัลรวม 159,000 USD เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมเฉลิมฉลองกับผู้ชนะเลิศจากเกมอันดุเดือดนี้ 

แชมป์จากรอบที่ 1 คว้าแชมป์ไปด้วยการทำผลตอบแทนสูงเกือบ 900% 

ในการแข่งขันรอบแรกของปีนี้ Doo Prime มีบัญชีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 บัญชีจากทั่วโลก โดยแบ่งเป็นสองประเภทการแข่งขันคือ ระดับมาสเตอร์ และระดับคลาสสิค 

ผู้เข้าแข่งขัน 10 อันดับแรกจากทั้งสองระดับ รวมแล้ว 20 คน ได้รับเงินรางวัลรวมทั้งหมด USD79,500 

สำหรับผู้ชนะในระดับมาสเตอร์ คือคุณ Jeon Ji YXXX และผู้ชนะในระดับคลาสสิค คือคุณ Liao XXX ซึ่งทำอันดับหนึ่งด้วยผลตอบแทน 329% และ 875% ตามลำดับ ด้วยการจัดการ Position และจัดสรรทุนที่ยอดเยี่ยม 

ผลงานที่โดดเด่นในรอบแรกทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจไปกับรูปแบบการเทรดอันหลากหลายที่ผู้เข้าแข่งขันต่างแสดงฝีมือเอาไว้ มาในครั้งนี้ เราเชื่อว่าการแข่งขันของรอบที่ 2 ของ S3 #DooTrader Charity Cup Global Trading Competition จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และการแข่งขันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้! 

นอกเหนือจากการเปิดเวทีให้เทรดเดอร์ได้ประลองทักษะและคว้าเงินรางวัลแล้ว การแข่งขัน S3 #DooTrader Charity Cup Global Trading ยังเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อการกุศลอีกด้วย 

ในการเทรดทุกล็อตที่เทรดโดยผู้เข้าร่วมการแข่งขัน Doo Prime ทุกๆ 10 ดอลลาร์เราจะบริจาคเงิน USD0.1 เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กด้อยโอกาสทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาและการดำรงชีวิต 

ในขณะที่เรายังคงยึดมั่นต่อคติและพันธกิจของเรา เราหวังว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมูวามเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับเยาวชนคนรุ่นต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากเชิญชวนทุกคนเข้าร่วม #DooTrader เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาสำหรับคนรุ่นใหม่ 

เตรียมรับความท้าทายให้ดี เรายังเปิดให้ลงทะเบียนเข้าแข่งขันอยู่ 

การแข่งขันรอบที่สองของเราจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2022 เวลา 00:00:00 น. ถึง 14 ธันวาคม 2022 เวลา 23:59:59 (UTC+0)  การลงทะเบียนรอบที่ 2 จะจบลงวันที่ 1 ธันวาคม 2022 เวลา 23:59:59 (UTC+0) ผู้เข้าแข่งขันทั้งรายเก่าและรายใหม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันตามขั้นตอน 4 ขั้นตอนต่อไปนี้ 

โปรดตรวจสอบว่าเมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว บัญชีต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด 2 ข้อเพื่อให้มีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน 

1. มียอดเงินตรงตามข้อกำหนดยอดเงินขั้นต่ำ (มาสเตอร์ 10,000USD คลาสสิค 1,000USD) 

2. ไม่มีคำสั่งซื้อขายที่ดำเนินการอยู่ในบัญชีที่ลงทะเบียน 

หมายเหตุ: หลังจากเริ่มต้นการแข่งขันในแต่ละรอบ หากยอดเงินในบัญชีมีจำนวนน้อยกว่ายอดเงินขั้นต่ำตามข้อกำหนดของแต่ละกลุ่ม หรือหากมีคำสั่งซื้อขายที่ดำเนินการอยู่ในบัญชี ระบบจะไม่คำนวณข้อมูลการซื้อขาย ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่ถูกนำมาคำนวณเพื่อจัดลำดับจนกว่าบัญชีจะเป็นไปตามข้อกำหนดการแข่งขันที่กล่าวไป 2 ข้อแล้ว  ซึ่งจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อผู้จัดการบัญชีส่วนตัวของคุณ หรือสอบถามได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเรา 

การแข่งขันเทรดการกุศล S3 #DooTrader ได้ยึดหลักการในการสร้างอีเวนท์เครือข่ายเทรดเดอร์ทั่วโลก 

การแข่งจัดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลกได้แสดงความเก่ง และได้ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง รวมไปถึงการสร้างจิตวิญญาณการทำเพื่อการกุศลไปทั่วโลก 

เราอยากอวยพรให้ผู้เข้าแข่งขันของปีนี้ประสบความสำเร็จในรอบที่ 2 ได้ตระหนักถึงอุดมคติในการลงทุนของตัวเอง และส่งต่อประสบการณ์เทรดดิ้ง รวมไปถึงการแบ่งบันวัฒนธรรมที่แตกต่าง มาร่วมกันสร้างเส้นทางการเทรดที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นไปด้วยกัน 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเวนท์หรือการลงทะเบียนเข้าแข่งขัน โปรดติดต่อ dootrader.com/th 

| เกี่ยวกับ Doo Prime 

เครื่องมือการซื้อขายของเรา 

หลักทรัพย์ | ฟิวเจอร์ส| ฟอเร็กซ์ | โลหะมีค่า | สินค้าโภคภัณฑ์ | ดัชนีหุ้น

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 60,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 5,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน 

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก 

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 10 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ 

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ 

โทรศัพท์ 
ยุโรป : +44 11 3733 5199  
เอเชีย : +852 3704 4241   
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415  
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539  

อีเมล
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected] 
ฝ่ายขาย [email protected] 

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย 

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป