Doo Prime รายงานมูลค่าการซื้อขายประจำเดือนธันวาคม 2564

2022-01-17 | Trading Volume , รายงานปริมาณการซื้อขาย

มูลค่าการซื้อขายโดยรวม ประจำเดือนธันวาคม 2564 

  • มูลค่าการซื้อขายรวม: 5,399,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • คู่สุกลเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ XAU/USD, JPN225 และ US30 
  • XAU/USD มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ 2,259,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • JPN225 มีทำสถิติมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 1,768,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 4,189.37% 

ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 23.19% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง 1,669,000,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 223.6% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2564 

ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADV) ในเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 1,740,000,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน โดยปริมาณซื้อขายสะสมทั้งหมดของ Doo Prime จนถึงปัจจุบันมีมูลค่ารวมเป็น 347.93 พันล้านดอลลาร์ 

โดยรวมแล้ว ปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ในปี 2564 เป็นไปในเชิงบวก โดยมี
แนวโน้มการเติบโตโดยรวมที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการลดลงเล็กน้อยในเดือนมีนาคม มิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคม ส่วนเดือนที่มีมูลค่าการซื้อขายรายเดือนสูงสุดคือในเดือนธันวาคม คิดเป็น 15.52 % ของปริมาณทั้งหมดในปี 2564 

จะเห็นได้ว่า XAU/USD, JPN225 และ US30 เป็นตัวเลือกต้นๆ ของนักลงทุน จนมีปริมาณการซื้อขายรวมถึง 80.4% ในเดือนธันวาคม 2564 

กล่าวคือ XAU/USD มีปริมาณการซื้อขายรายเดือนสูงสุดที่ 2,259,000,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ JPN225 และ US30 มีปริมาณการซื้อขายโดยรวมต่อเดือน 2,081,000,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

จากรายงานปริมาณการซื้อขายก่อนหน้านี้ นับเป็นครั้งแรกในปี 2564 ที่ JPN225 และ US30 ติดอันดับในผลิตภัณฑ์การซื้อขายใน 3 อันดับแรก นอกจากนี้ปริมาณการซื้อขายรายเดือนของ JPN225 เติบโตขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1,768,000,000 พันล้านดอลลาร์หรือ 4789.37% จากเดือนพฤศจิกายน 2564 

แม้ว่าจะมีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างมหาศาลนี้ แต่ Doo Prime ก็แสดงศักยภาพในการดำเนินการและบริการได้อย่างไม่ต้องสงสัย ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการลงทุนชั้นนำ Doo Prime มีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่ช่วยให้คุณเป็นผู้นำในการลงทุนเสมอ พร้อมพัฒนา Fin-tech เพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ระดับโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป 

ทำความรู้จักกับ Doo Prime 

about Doo Prime

Doo Prime แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้กลุ่มบริษัท Doo Group ที่มุ่งมั่นในการให้บริการนักลงทุนมืออาชีพด้วยผลิตภัณฑ์ CFD ระดับโลก ที่ครอบคลุมถึงหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส Forex สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และกองทุน ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ามืออาชีพมากกว่า 35,000 ราย โดยมีคำสั่งซื้อขายมากกว่า 1 ล้านรายการในแต่ละเดือน 

Doo Prime ได้รับใบอนุญาตการกำกับดูแลทางการเงินในเซเชลส์ มอริเชียส และวานูอาตู โดยมีสำนักงานในหลายภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ดัลลาส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ดูไบ กัวลาลัมเปอร์ เป็นต้น  

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่แข็งแกร่ง พันธมิตรที่มั่นคง และทีมเทคนิคที่มีประสบการณ์ Doo Prime จึงสามารถสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย รวมทั้งต้นทุนการซื้อขายให้คุณลงทุนได้อย่างไร้กังวล รวมถึงการฝากและถอนเงินที่รองรับกว่า 10 สกุลเงิน Doo Prime ยังมาพร้อมกับการบริการลูกค้าหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และดำเนินการซื้อขายอย่างรวดเร็วผ่าแพลตฟอร์มซื้อขายชั้นนำ เช่น MT4, MT5, TradingView และ InTrade ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์การเงินมากกว่า 10,000 รายการ 

วิสัยทัศน์และพันธกิจของ Doo Prime คือการเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อให้คุณสามารถลงทุน์ทางการเงินระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ประกาศความไม่รับผิดชอบ

ข้อมูลนี้จัดทำเป็นสื่อสาธารณะ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น จึงไม่ควรใช้เป็น
คำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ ข้อมูลที่แสดงในที่นี้จัดทำขึ้นโดยไม่มีการอ้างอิงหรือการพิจารณาวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินของผู้รับรายใดโดยเฉพาะ การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพในอดีตของเครื่องมือทางการเงิน ดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ จะไม่ถือเป็นข้อบ่งชี้
ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูลที่แสดงและจะไม่รับผิดชอบต่อการการขาดทุน สูญเสีย หรือความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องและความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ Doo Prime จะไม่รับผิดชอบต่อการขาดทุน สูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเป็นผลมาจากความเสี่ยงในการซื้อขายโดยตรงหรือโดยอ้อม รวมทั้งกำไรหรือการขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบุคคลหนึ่งบุคคลใด 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป