Doo Group & Manchester United: เชื่อมโยงด้วยค่านิยมที่มีร่วมกัน  

2023-04-06 | Doo Group x Manchester United

ในต้นปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา Doo Group ก่อตั้งพาร์ทเนอร์ระดับโลกร่วมกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด การเป็นพาร์ทเนอร์ครั้งนี้เป็นการรวมวงการฟุตบอลและฟินเทคเข้าด้วยกันเพื่อสร้างค่านิยมที่มีร่วมกันระหว่างเทรดเดอร์กับแฟนฟุตบอล สำหรับเจ้าพ่อฟินเทคอย่างเราแล้ว สิ่งนี้นับว่าเป็นก้าวแรกสู่อุตสาหกรรมระดับโลกไปพร้อมกับสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลกด้วย 

2 ยักษ์ใหญ่สร้างความเข้ากันที่ลงตัว

นอกเหนือจากสีแดงที่เป็นสีของแบรนด์ที่มีร่วมกันแล้ว พาร์ทเนอร์ทั้งสองยังมีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน คือ ค่านิยม จรรยาบรรณในการทำงาน และเจตจำนงที่มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จอย่างไม่ย่อท้อ ซึ่งเป็นผลมาจากผู้จัดการทีมในปัจจุบัน คือ ‘เอริก เทน ฮาก’ (Erik Ten Hag) ซึ่งนับตั้งแต่ได้แต่งตั้งเขามา เขาได้ปลูกฝังความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะกลับคืนสู่ทีม เขาได้สร้างทีมที่มีความมุ่งมั่นและได้ปลูกฝังค่านิยมต่างๆ ของสโมสรด้วย เช่นเดียวกับที่เรามีให้กับพนักงานทุกคนที่ Doo Group ที่ได้มาเป็นผู้นำร่วมกับทีมผู้บริหารของเรา 

ในฐานะผู้นำตลาด เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีค่านิยมเดียวกับพาร์ทเนอร์ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพาร์ทเนอร์ที่มีความสำคัญระดับโลกเช่นนี้

มาดูว่าเส้นทางความร่วมมือของ 2 ยักษ์ใหญ่ที่มีค่านิยมเดียวกันเป็นอย่างไร   

ยึดมั่น และเดินหน้าไปพร้อมกัน 

Doo Group และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทุ่มเทให้กับสายงานของตนอย่างต่อเนื่อง ผลักดันเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด และทุ่มเทอย่างไม่มีสิ้นสุดเพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ 

เช่นเดียวกับที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ทำผลงานในสนามได้ดีขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยได้เป็นแชมป์ EFL Cup คว้าถ้วยรางวัลแรกในรอบ 6 ปีไว้ได้ ซึ่งทาง Doo Group ก็มุ่งมั่นที่จะผลักดันไปข้างหน้าด้วยการมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยกิจกรรม แคมเปญและการพัฒนาต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นความมุ่งมั่นสำคัญกับยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทคอย่างเรา เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการแก่ลูกค้าของเราทุกคน โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะเป็นใคร หรืออยู่ที่ใดก็ตาม 

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ การฝึกฝนอย่างหนัก และด้วยความเชื่อที่มี ทั้งสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ Doo Group มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เราทั้งสองยังคงกระหายความสำเร็จเช่นเคย และไม่เคยที่จะหยุดอยู่กับที่ 

ความเชื่อใจ วินัย และการทำงานเป็นทีม เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ 

ผู้จัดการทีมเอริกได้ปลูกฝังการทำงานเป็นทีมและระเบียบวินัยภายในทีม ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจด้วยการปลูกฝังความเชื่อใจในวิธีการ การสื่อสาร ความทุ่มเท และท้ายที่สุดคือความสำเร็จ 

ความสำเร็จของแมสเชสเตอร์ยูไนเต็ดเกิดขึ้นได้จากการทำงานเป็นทีมและความเชื่อใจจากคนในทีมด้วยกันเอง ซึ่ง Doo Group มีวินัยที่คล้ายกันนี้ในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมที่มีความตั้งใจในการก้าวไปสู่ความสำเร็จเช่นเดียวกัน 

เราใส่ใจกับอนาคตทางการเงินของท่าน มากเท่ากับที่ท่านใส่ใจกับอนาคตทางการเงินของท่านเอง และเราทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อการลงทุนอย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่พัฒนาตนเองไปสู่อีกระดับ ทีม Doo Group ก็เช่นกัน เรารับทีมงานที่มีความสามารถทั่วโลกมาอยู่ภายใต้บริษัทเราเพื่อให้บริการฟินเทคที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา เราให้คุณค่ากับค่านิยมเหล่านี้ เนื่องจากเราได้พัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อหาทางให้บริการลูกค้าของเราผ่านการสร้างความไว้วางใจกับความซื่อสัตย์ ทำให้ Doo Group ปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดีที่สุดพร้อมบริการชั้นยอดให้กับลูกค้าทุกท่าน รวมถึงมีใบอนุญาตทางการเงินจากหลากหลายหน่วยงาน เพื่อให้สภาพแวดล้อมการซื้อขายมีความปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าทุกท่าน 

จุดไฟให้แพชชันและเป้าหมาย 

ฟุตบอลเป็นฟุตบอลได้เพราะแฟนทีมฟุตบอล เอริกประสบความสำเร็จในการรวมผู้เล่นกับแฟนทีมฟุตบอลเข้าด้วยกัน โดยมองเห็นความสำคัญของความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ และการทำงานเป็นทีม สิ่งนี้ทำให้แมนยูรวมเป็นหนึ่งเดียว โดยทำให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกันได้โดยมีชัยชนะเป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด 

ผู้จัดการทีมบอกให้ทีมออกไปค้นหา ‘ความรุ่งโรจน์และเกียรติยศ’ ระหว่างการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศกับนิวคาสเซิลในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2023 ในสนาม Wembley เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของถ้วยรางวัล เพื่อเกียรติยศของฟุตบอลและที่สำคัญที่สุดคือเพื่อแฟนบอลเอง เพื่อตอบแทนความรักและสนับสนุนที่พวกเขามอบให้ตลอดทุกฤดูกาลที่ผ่านมา 

ฟุตบอลเป็นฟุตบอลได้เพราะว่ามีแฟนทีมฟุตบอลฉันใด ฟินเทคก็เป็นฟินเทคได้เพราะมีลูกค้าฉันนั้น ซึ่ง Doo Group ก็เช่นกัน เรายึดถือคติที่ว่า “ลูกค้าสำคัญที่สุด” เราได้ปลูกฝังค่านิยมดังกล่าวให้กับพนักงานของเราทุกคนทั่วโลก เพื่อแสดงความรักและความชื่นชมต่อลูกค้าที่สนับสนุนเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งนี้ช่วยให้เรายึดมั่นในเป้าหมายของเรา คือความมุ่งมั่นที่จะให้บริการระดับมืออาชีพแก่ลูกค้าทุกคน มอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ และสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง  

ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องการสนับสนุนเทรดเดอร์ในเส้นทางของการลงทุนให้ดีที่สุด เราจึงพยายามร่วมกันเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จผ่านค่านิยมที่มีร่วมกัน 

มุ่งมั่นสู่อนาคตในฐานะพาร์ทเนอร์ 

ทั้งสองยักษ์ใหญ่ก็ต่างมีค่านิยมร่วมกันที่ปรับใช้ในอุตสาหกรรมของพวกเขาเอง ทำให้พวกเขาเติบโตและสร้างการเปลี่ยนแปลงในแบบของเขาเอง เราตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตร่วมกันของทั้งแฟนทีมฟุตบอลแมนยูและเทรดเดอร์ของ Doo Group เมื่อเราและพาร์ทเนอร์ได้ร่วมเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ชัยชนะจงมาสู่แมนยูและ Doo Group! 

| เกี่ยวกับ Doo Prime     

เครื่องมือการซื้อขายของเรา      

หลักทรัพย์ | ฟิวเจอร์ส| ฟอเร็กซ์ | โลหะมีค่า | สินค้าโภคภัณฑ์ | ดัชนีหุ้น     

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน      

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก      

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 10 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ      

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก        
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ      

โทรศัพท์      

ยุโรป : +44 11 3733 5199     
เอเชีย : +852 3704 4241     
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415     
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539

อีเมล 
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected]     
ฝ่ายขาย [email protected]    
     
ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย     

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป