Doo Group และ UNICEF Hong Kong เดินหน้าส่งเสริมเด็กให้ได้รับสิทธิการศึกษา

2023-04-19 | OneMissionTH , UNICEF , UNICEF Hong Kong

 

Doo Group ยินดีที่จะประกาศว่า Doo Group ได้ขยายเวลาความร่วมมือกับองค์กร UNICEF Hong Kong เพื่อเดินหน้าความพยายามในการมอบสิทธิการศึกษาให้เด็กยากไร้ต่อไป โดยตั้งแต่เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2022 Doo Group ได้ร่วมเส้นทางเดียวกันกับ UNICEF เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กผ่านโครงการ Schools for Asia  

หลังจากหนึ่งปีแห่งความร่วมมือที่นำไปสู่ความสำเร็จครั้งใหญ่ Doo Group ตัดสินใจเดินหน้าเป็นพาร์ทเนอร์กับ UNICEF ต่อไปเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้ทั่วโลก 

© UNICEF/UN0619113/Baruah 
นักเรียนของโรงเรียนมัธยม Bathou Ashram ระหว่างชั้นเรียนใน Medaghat, Baksa, Assam เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2022 มีการใช้ MoE-NCERT Foundational Learning Study ในทั่วทุกรัฐในอินเดียในช่วงเดือนมีนาคม 2022 

ให้สิทธิเด็กในการเข้าถึงการศึกษา ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก 

Doo Group ในฐานะบริษัทการเงินระดับโลก ที่ขับเคลื่อนด้วยคติการมีผู้คนเป็นศูนย์กลางของเป้าหมายและการอยู่ร่วมกันในสังคม เราเชื่อเสมอว่าการศึกษาจะเป็นพลังสร้างความฝันให้เป็นจริง การศึกษาก่อให้เกิดความมั่นใจ ความหวัง และอนาคตที่สดใส 

© UNICEF/UN0255439/Pasquall 
UNICEF ได้พัฒนาหนังสือสำหรับเด็กที่มีบกพร่องด้านการสื่อสาร เขาเป็นนักเรียนที่โรงเรียน General Education School #3 ในเมืองอัลไต 

เมื่อมองย้อนกลับไปถึงเส้นทางของเราและ UNICEF ในปีที่ผ่านมา โครงการ Schools for Asia ได้บรรลุผลสำคัญที่ว่า เด็กจะต้องได้รับการเรียนรู้แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ใน 3 มุมมอง 

  1. การเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล 

UNICEF เปิดตัวแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัลที่ชื่อว่า “The Learning Passport” เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ไม่ได้รับการศึกษาได้ต่อสู้ในช่วงเวลาการระบาดของโควิด-19 โดยในเดือนธันวาคม 2022 แพลตฟอร์มดังกล่าวมีผู้ใช้แล้วมากกว่า 120,000 รายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และมีคอร์สทั้งหมด 45,000 คอร์สที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 

ผู้แทนองค์การ UNICEF ติมอร์-เลสเต วาเลรี ทาตอน มอบแท็บเล็ตจำนวนหนึ่งให้กับกระทรวงความเป็นปึกแผ่นทางสังคมและการมีส่วนร่วมที่สถานดูแลเด็กในดิลี แท็บเล็ตจะใช้เพื่อติดตามการตอบสนองของ COVID-19 ที่ดำเนินการโดยกระทรวงความเป็นปึกแผ่นและการมีส่วนร่วมทางสังคม
  1. การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของวัยรุ่น 

UNICEF เสนอทางเลือกในการเรียนรู้แก่วัยรุ่นที่ขาดเรียนด้วยเหตุผลต่างๆ โดยเฉพาะจากความไม่เท่าเทียมที่มาจากเพศสภาพ เนื่องจากเด็กหญิงวัยรุ่นอาจพบกับอุปสรรคในการเรียนที่โรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่การศึกษาของวัยรุ่นหญิงมีความสำคัญน้อยกว่าผู้ชาย 

สิ่งหนึ่งที่ UNICEF และโครงการ Schools for Asia ได้ดำเนินการเพื่อทำลายอุปสรรคนั้น คือการแจกจ่ายสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง 110,000 ชุด ฝึกอบรมครู 3,200 คนเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านจิตสังคม และมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กหญิงวัยรุ่น 5,800 คนในประเทศเนปาล 

© UNICEF/UN0735102/Ijazah 
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนประถมทูนัวกำลังศึกษาในห้องเรียน โดยโครงการมุ่งเน้นให้นักเรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมกับสร้างความพร้อมของน้ำสะอาด บริการด้านสุขอนามัย และสุขอนามัยส่วนบุคคล ตลอดจนบริการด้านสุขภาพและการคุ้มครองเด็กที่จำเป็น 
  1. การศึกษาภายใต้เหตุฉุกเฉินและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 

เนื่องจากทวีปเอเชียมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากที่สุด UNICEF จึงมุ่งมั่นที่จะให้การศึกษา ตัวอย่างเช่น UNICEF ได้ขยายโครงการความปลอดภัยในโรงเรียนที่ครอบคลุมไปยัง 10 รัฐ ช่วยเหลือโรงเรียน 145,000 แห่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อการเปลี่ยนแปลงด้านมนุษยธรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอินเดีย 

สร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง 

โครงการ Schools for Asia ประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดย Doo Group และ UNICEF ทุ่มเททำงานร่วมกันเพื่อปลดล็อกศักยภาพของเด็กด้วยการให้โอกาสในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง  

Doo Group รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะการศึกษาจะช่วยพัฒนาทักษะในการสนับสนุนตัวเด็กเองและช่วยในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในอนาคต ซึ่งในที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับการศึกษาก็จะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ และเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นไป 

ความสำเร็จไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้ง แม้ว่าโครงการ Schools for Asia จะประสบความสำเร็จแล้ว แต่ก็ยังมีเด็กจำนวนมากในโลกที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้เนื่องจากพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ยากจนและถูกผลักไสให้เป็นคนชายขอบ Doo Group ตระหนักถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงได้ตัดสินใจสานต่อความร่วมมือกับองค์กร UNICEF ต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี 

ในอีก 2 ปีข้างหน้า Doo Group จะมีส่วนร่วมในโครงการอื่นๆ ขององค์กร UNICEF อย่างโครงการ “Reimagine Education” ซึ่งความร่วมมือครั้งใหม่นี้คาดว่าจะช่วยให้เด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เข้าถึงการศึกษาด้วยวิธีการเรียนรู้แบบดิจิทัล โดยในปี 2021 เด็กและเยาวชนมากกว่า 500 ล้านคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้แบบดิจิทัลได้ 

การขยายความร่วมมือระหว่าง Doo Group และองค์กร UNICEF Hong Kong ถือเป็นอีกก้าวสำคัญก้าวใหม่ในการส่งเสริมศักยภาพเด็กด้อยโอกาส ด้วยความร่วมมือของ Doo Group กับ UNICEF Hong Kong เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิมในอนาคต 

เกี่ยวกับ Doo Group  

Doo Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ในปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากการพัฒนาหลายปี Doo Group ได้กลายเป็นบริษัทบริการทางการเงินหลายประเภทที่มีเทคโนโลยีทางการเงินเป็นหลัก โดยมีบริษัทในเครืออย่าง Doo Clearing, Doo Financial, Doo Prime, FinPoints และอื่น ๆ Doo Group มีความมุ่งมั่นที่จะให้การบริการจัดการการซื้อขายและทรัพย์สินมากกว่า 20,000 ผลิตภัณฑ์ อาทิ เช่น หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และสกุลดิจิตอลให้กับลูกค้ารายบุคคลและองค์กร  

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  

ฮ่องกง: +852 6701 2091  

สิงคโปร์: +65 6011 1736 

อีเมล: [email protected] 

เกี่ยวกับ UNICEF  

UNICEF ทำงานในพื้นที่ที่ยากลำบากเพื่อเข้าถึงเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาส เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กไม่ว่าใคร และไม่ว่าที่ใดก็ตาม UNICEF ตั้งอยู่ใน 190 ประเทศและเขตแดนทั่วโลกเพื่อช่วยให้เด็กจนสุดความสามารถเพื่อให้พวกเขาสามารถเอาชีวิตรอดได้ สามารถเติบโตและใช้ศักยภาพได้เต็มที่ตั้งแต่เป็นเด็กจนเป็นเยาวชน  

และเราไม่เคยย่อท้อ 

เกี่ยวกับ Hong Kong Committee ของ UNICEF  

Hong Kong Committee ของ UNICEF หรือ UNICEF HK ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1986 ในฐานะองค์กรท้องถิ่นเอกชนอิสระ UNICEF HK ระดมทุนจากการบริจาคสาธารณะ พันธมิตรองค์กร และงานพิเศษต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ UNICEF อีกทั้ง UNICEF HK ยังโปรโมทและสนับสนุนสิทธิเด็กผ่านการศึกษาและโครงการเพื่อเยาวชนในฮ่องกง  

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ “School for Asia” ของ UNICEF สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์  

UNICEF Hong Kong: https://www.unicef.org.hk/en/schools-for-asia/ 

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)    

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)  

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่  เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Group จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต   

Doo Group ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Group เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Group ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้  

Doo Group ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Group ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้  

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง  

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินนั้น เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้  

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับเรา หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ     

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย  

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Group ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Group ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล  

UNICEF ไม่รับรองบริษัท แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ก็ตาม   

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป