Doo Bursary ให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน

2022-10-06 | doo bursary , Doo Group , Doo Prime , OneMissionTH , ทุนการศึกษา

ส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างจิตวิญญาณแห่งการให้ 

Doo Bursary ก่อตั้งเมื่อค.ศ. 2021 โดยมี Doo Group เป็นผู้นำในการช่วยเหลือด้านการเงินแก่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการศึกษาสามารถเป็นพลังที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้ ดังนั้น เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของ Doo Bursary คือการสร้างความหวังทางการศึกษา Doo Bursary มอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาเพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาในด้านที่พวกเขาถนัดและเพื่อให้พวกเขาได้ค้นพบศักยภาพของตนเองแม้ว่าจะมีข้อจำกัดทางการเงินก็ตาม 

Doo Bursary ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมทุนกับ King’s College London ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำติดอันดับ 1 ใน  6 ของสหราชอาณาจักร พันธมิตรนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาทางการเงินของนักศึกษา 

มาดูว่านักศึกษาเราพูดเกี่ยวกับ Doo Bursary ว่าอย่างไร 

เป็นดั่งแรงบันดาลใจ 

Elias นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ของ Enhanced Support Dentistry Program (ESDP), Dentistry, Oral & Craniofacial Science พูดเกี่ยวกับ Doo Bursary ว่า 

“ผมไม่สามารถบรรยายได้ว่าผมรู้สึกขอบคุณแค่ไหน ที่มีคนบริจาคช่วยปัญหาทางการเงินของผมในการเรียนที่ King’s ผมหวังอย่างยิ่งว่าผมจะสามารถมอบความกรุณาและการสนับสนุนนี้ให้แก่เด็กคนอื่นได้เหมือนกัน เพื่อที่ว่าชีวิตของเขาจะได้ง่ายขึ้นเหมือนที่ผมเป็นตอนนี้” 

เขายังพูดต่ออีกว่า 

“ผมและครอบครัวรู้สึกตื่นเต้นมากที่ผมเข้าเรียนที่ King’s ได้ พวกเขาทั้งให้ความรักและสนับสนุนผมตลอดการเดินทางนี้ โดยเฉพาะแม่ที่ใฝ่ฝันอยากให้ผมเรียนที่ King’s แม่เป็นคนผลักดันทุกย่างก้าวที่ผมเดิน 

อีกทั้ง การที่ผมเรียนทันตแพทย์ที่ King’s เป็นแรงบันดาลใจให้น้องสาวของผมอยากที่จะประสบความสำเร็จด้วย เธอหวังว่าสักวันจะได้เรียนคณะแพทย์ที่ King’s เหมือนกัน” 

ทะลายกำแพงและเดินหน้าต่อไป 

Du’a นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ของ ของคณะ Pharmacy MPharm, Life Sciences & Medicine กล่าวอย่างชื่นชมยินดีว่า 

“ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉันและมอบชีวิตที่มีความสุขที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อน ฉันหวังว่าจะได้ใช้ความกรุณานี้ในอนาคตแก่คนอื่น เหมือนที่ฉันได้รับโอกาสนี้ด้วย เพราะฉันเห็นว่าสิ่งนี้มีอิทธิพลต่อชีวิต และทำให้ชีวิตคนคนหนึ่งดีขึ้นขนาดไหน” 

เธอยังบอกอีกว่า 

“การได้เป็นคนแรกในครอบครัวที่เข้ามหาวิทยาลัยมีความหมายกับพวกเรามาก มันทำลายคำสาปของครอบครัวเรา ทำให้น้องของฉันและตัวฉันเองเชื่อว่าเราสามารถเป็นอะไรที่ดีกว่าเดิมได้ และทำอะไรที่ดีกว่าเดิมได้อีกมากมาย 

ฉันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับโอกาสที่ให้ฉันมา ไม่มีคำพูดใดสามารถบรรยายความรู้สึกดีใจและซาบซึ้งใจของฉันได้เลย มันช่วยผลักดันทุกคนรอบตัวฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องประสบกับสิ่งที่ฉันเจอเหมือนกัน แม้อุปสรรคที่ฉันเจอมาจากสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจจะมากมาย แต่ด้วยความพากเพียร ฉันจะต้องเอาชนะและเป็นแสงสว่างแห่งความหวังให้แก่คนรอบข้างต่อไป!” 

เริ่มต้นด้วยความหวังใหม่ 

R****r นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ของ Medicine MBBS Extended, Life Sciences & Medicine พูดเกี่ยวกับ Doo Bursary ว่า 

“แม่ของฉันเคยบอกว่าเราไม่ควรรีบเร่งหาความรู้ แต่ให้อยู่ชื่นชมมัน ฉันควรจะใช้เวลากับมันให้มากเพื่อสร้างฐานรากความรู้ที่แข็งแรง เพราะว่านี่ไม่ใช้แค่ปริญญาสำหรับฉัน แต่มันคือความรู้เพื่อช่วยชีวิตคน” 

เธอยังบอกอีกว่า 

“ฉันเป็นคนแรกในครอบครัวที่เข้ามหาวิทยาลัยได้ แม่ของฉันอยากเป็นหมอ แต่แม่ทำไม่ได้เพราะคุณตาและคุณยายให้คุณแม่แต่งงานเพื่อหาเงินก่อนที่แม่จะเรียนจบ ฉันอยากให้แม่ภูมิใจ แม่เสียสละและใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อพาฉันออกจากอัฟกานิสถาน เพื่อที่ฉันจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และได้เรียนในประเทศที่ปลอดภัย” 

*ปกปิดชื่อจริงเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของนักเรียน 

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก Doo Bursary 

ขอให้เด็กเหล่านี้ได้พัฒนาทักษะทางวิชาการของตนเองไปกับ Doo Bursary ต่อไป

Doo Group และบริษัทในเครือภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กและคนรอบข้างพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น 

ทุนการศึกษาที่เราจ่ายไปมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนชีวิตของเยาวชน ให้โอกาสพวกเขาได้สร้างอนาคตที่ดีขึ้นจากการมอบศึกษาที่จะเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิต 

เราหวังว่าเด็กทุกคนจะโชคดีกับอนาคตที่พวกเขาพยายามสร้างขึ้นมา ขอให้ความพยายามทุกอย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งเราได้ส่งต่อจิตวิญญาณแห่งการศึกษาและการให้แก่พวกเขาแล้ว 

ปีใหม่นำมาซึ่งการเริ่มต้นใหม่ 

ปีการศึกษาใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และ Doo Bursary ยังรับนักศึกษาเพิ่มอีก 10 คนจากทุกคณะ ตลอดระยะเวลาของหลักสูตรปริญญา 3 ปี 

เรารอนักศึกษาใหม่ที่ต้องการสร้างอนาคตที่ดีอยู่ 

(หมายเหตุ: โครงการมอบทุนการศึกษาของสหราชอาณาจักรเป็นไปตามระบบการระดมทุนแบบใช้จ่ายเงิน เงินทุนที่ยังไม่ได้ใช้ของทุนการศึกษาจะถูกยกยอดไปยังปีการศึกษาถัดไปจนกว่าจะใช้จนหมด) 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป