3 หุ้นเติบโตที่น่าจับตามองในปี 2024

2024-01-18 | CRWD , Growth Stock , Uber , Visa , หุ้นเติบโต

ในขณะที่ Tightening cycle ของธนาคารกลางสหรัฐใกล้ถึงจุดสิ้นสุด หุ้น “Magnificent 7” ก็ได้แสดงศักยภาพการเติบโตที่น่าประทับใจ แต่หุ้นเติบโต หรือ Growth Stock ที่เราควรจับตามองเป็นอย่างไรบ้าง 

ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจหุ้นลับที่เป็นหุ้นเติบโต 3 ตัว แม้ไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่อาจจะมีศักยภาพที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนในปี 2024 นี้ 

ร่วมศึกษาหุ้นที่มีแนวโน้มดีที่น่าจับตามองในปี 2024 เนื่องจากหุ้นเหล่านี้อาจเป็นเพชรในตมที่ทำได้ดีกว่าตลาดภาพรวมด้วย 

Uber Technologies (UBER) หุ้นที่น่าจับตามองในปี 2024  

แม้ว่า Uber จะต้องเผชิญการชะลอตัวในช่วงที่เกิดโรคระบาดและตลาดขาลงในปี 2022 แต่บริษัทบริการร่วมเดินทางและจัดส่งอาหารทั่วโลกก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในปี 2023 

การกลับมาอย่างน่าประทับใจนี้เป็นเพราะ Uber มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุน การขึ้นราคา และเพิ่มส่วนแบ่งในการขายแต่ละครั้ง ซึ่งนำไปสู่ผลกำไรที่เป็นบวกและแม้กระทั่งการทำกำไรในช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Uber จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหุ้นของ Uber ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะขึ้นไปแล้วประมาณ 50% นับตั้งแต่ IPO ในปี 2019 ด้วยบริการใหม่ๆ และแผนการขยายธุรกิจ อนาคตของ Uber ก็ดูสดใส 

จากมุมมองทางเทคนิค ราคาพยายามที่จะทะลุไปสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล หากประสบความสำเร็จ เราอาจเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากสู่ 80, 90 หรือแม้แต่ 100 

ทำไม UBER อาจน่าสนใจ 

  • ฟื้นตัวจากโรคระบาดด้วยยอดจองที่เติบโตแข็งแกร่ง 
  • เริ่มทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในปี 2023 
  • Uber เข้าร่วมดัชนีหุ้น S&P 500 ในเดือนธันวาคม 2023 
  • ยังคงมีพื้นที่สำหรับขยายบริการเรียกรถและบริการส่งอาหาร 
  • ราคาหุ้นต่ำเมื่อเทียบกับกำไรในอนาคต 
  • นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะทำกำไรมหาศาลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 

CrowdStrike Holdings (CRWD) หุ้นที่น่าจับตามองในปี 2024 

CrowdStrike โดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยบริการบนคลาวด์ ทำให้ราคาถูกกว่าและใช้งานง่ายกว่า แม้ว่าหุ้นจะมีการเติบโตของหุ้นถึง 600% นับตั้งแต่การเสนอขายหุ้น IPO ในปี 2019 แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ เนื่องจากธุรกิจจำนวนมากหันมาใช้การรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ 

ด้วยลูกค้าใหม่ การปรับปรุง AI และบริการที่เพิ่มขึ้น รายได้ของ CrowdStrike จึงเพิ่มขึ้น 67% ต่อปีตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2023 และนักวิเคราะห์คาดว่าจะเติบโตต่อไปที่ 30% ต่อปีจนถึงปี 2026 

บริษัทยังมีผลกำไรและคาดว่าจะเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญในอีกสองปีข้างหน้า ด้วยรายได้ในอนาคตถึง 66 เท่า CrowdStrike ยังคงเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการการเติบโตสูง 

จากมุมมองทางเทคนิค ราคาอาจเริ่มสูงขึ้นมากเมื่อทะลุผ่านแนวต้านทางจิตวิทยา 300  เป้าหมายหลักอันดับแรกคือ 350 

ทำไม CRWD อาจน่าสนใจ 

  • การรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ให้การป้องกันที่ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์หนัก 
  • บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าเกือบทุกปีนับตั้งแต่เสนอขายหุ้น IPO 
  • อนาคตดูสดใส นักวิเคราะห์คาดการณ์การเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี 
  • ทำกำไรได้ในช่วงสองสามไตรมาสที่ผ่านมา 

Visa Inc (V) หุ้นที่น่าจับตามองในปี 2024 

ลองนึกภาพว่าคุณเป็นเจ้าของสะพานที่ทุกคนต้องข้ามเพื่อซื้อของ ทุกครั้งที่มีคนข้าม คุณจะได้รับค่าธรรมเนียมตอบแทน 

นั่นคือโมเดลธุรกิจของ Visa ด้วยระบบประมวลผลการชำระเงิน ทุกครั้งที่ใช้บัตร Visa บริษัทจะมีรายได้และเพิ่มผลกำไรมหาศาล 

Visa มีผลกำไรมหาศาล โดยรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งกลายเป็นกำไรสุทธิ แม้จะเป็นบริษัทใหญ่แล้ว แต่ก็ยังเติบโตอยู่ ในไตรมาสล่าสุด รายได้เพิ่มขึ้น 11% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

จากมุมมองทางเทคนิค ปัจจุบันหุ้นของ Visa มีการซื้อขายที่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดเวลา ตามหลักการแล้ว การกลับตัวลงมาที่ 250–240 อาจเป็นโอกาสซื้อที่ดีสำหรับการถือครองระยะยาว

ทำไม V อาจน่าสนใจ 

  • ธุรกิจตู้เก็บค่าผ่านทาง: เรียบง่ายและทำกำไรได้ บริษัทเก็บค่าดำเนินการจากธุรกรรมของ Visa 
  • ราชาแห่งผลกำไร: หนึ่งในอัตรากำไรที่สูงที่สุดในโลก เปลี่ยนรายได้ครึ่งหนึ่งเป็นกำไรล้วนๆ! 
  • ยังคงเติบโต: แม้บริษัทจะใหญ่โตแล้ว แต่ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และบริษัทพึ่งจะทุบสถิติทำรายได้ได้สูงสุด 

สิ่งที่ต้องพิจารณาในระดับมหภาค

ตลาดตราสารทุนอาจพบกับการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า หลังจากความเชื่อมั่นที่ตกต่ำอย่างมากในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมระดับมหภาคแล้ว นักลงทุนควรคำนึงถึงเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้นและการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินที่อาจมีอิทธิพลต่อตลาดตราสารทุน 

ดังที่เราได้พูดคุยกันในบทความที่แล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 หากเกิดภาวะเงินฝืด เป็นที่น่าสังเกตว่าในอดีต ตลาดทุนต้องเผชิญกับ Liquidation ในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติม เราขอแนะนำให้อ่านบทความของเราเรื่อง เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 

อนาคตของการลงทุนในหุ้นเติบโต

ด้วยการฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจของ Uber โซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์ของ CrowdStrike และโมเดลธุรกิจตู้เก็บค่าผ่านทางของ Visa หุ้นเหล่านี้มีศักยภาพที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมแก่นักลงทุนในปี 2024 

แม้ว่าหุ้นเหล่านี้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่อย่าลืมว่าไม่มีการลงทุนใดที่ไร้ความเสี่ยง เพราะฉะนั้น นักลงทุนควรกระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณ จัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด 

แม้แต่กระแสน้ำที่มั่นคงก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการปรับตัวอย่างรวดเร็วและกลยุทธ์การลงทุนที่รอบคอบและรอบด้านจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการลงทุนในปีนี้ 


| เกี่ยวกับ Doo Prime            

เครื่องมือการซื้อขายของเรา          

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น         

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 130,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน         

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก          

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 22 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ          

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก          

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ          

โทรศัพท์          
ยุโรป : +44 11 3733 5199            
เอเชีย : +852 3704 4241             
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415            
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539              

อีเมล        
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected]            
ฝ่ายขาย [email protected]           

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)             

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)           

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต            

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้           

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้       

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง          

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย          

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง      

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย          

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป