ภารกิจ “OneMission” ของ Doo Prime: การเทรดที่สร้างคุณค่าระดับโลก 

2024-09-05 | CSR , OneMissionTH , ความเคลื่อนไหวเพื่อสังคม

ภารกิจ "OneMission" ของ Doo Prime: การเทรดที่สร้างคุณค่าระดับโลก 

ในฐานะโบรกเกอร์ออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับสากล เราภูมิใจที่จะเปิดตัวโครงการใหม่  “OneMission” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีในวันการกุศลสากล นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการ “Charity Star” ในปี 2021 เราได้มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนทุกการเทรดให้กลายเป็นพลังในการทำความดี โดยบริจาค $0.01 สำหรับทุกล็อตการเทรด  

ด้วยความร่วมมือ เราได้บริจาคไปแล้วเกือบ 360,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้ช่วยเหลือผู้คนในกว่า 20 ประเทศ และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้คนกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ทุกการเทรดของคุณคือพลังในการขับเคลื่อนภารกิจในการคืนประโยชน์สู่สังคม 

OneMission” : ก้าวใหม่แห่งการคืนประโยชน์สู่สังคม 

ภารกิจ "OneMission" ของ Doo Prime: การเทรดที่สร้างคุณค่าระดับโลก 

รวมพลังเพื่ออนาคตที่ดีกว่า 

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของเรา Doo Prime ภูมิใจที่จะเปิดตัวโครงการ “OneMission” ซึ่งเป็นบทใหม่ที่กล้าหาญในความมุ่งมั่นของเราต่อความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้สัญลักษณ์ “มือประสานกัน” และสโลแกน “One Mission” โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการขยายขอบเขตการทำงานด้านการกุศลของเรา 

“OneMission” คือการรวมพลังและความร่วมมือ ร่วมกับลูกค้าทั่วโลกเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น 

“OneMission” สะท้อนถึงหลักการที่เรายึดมั่น: “1 ล็อต 1 ความหวัง” แทนความหมายว่า ทุกการเทรดคือการจุดประกายความหวัง ร่วมกับลูกค้าทั่วโลกของเรา เรามุ่งเน้นการส่งต่อความเมตตาและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่า 

เล็กน้อยเพื่อการใหญ่ ทำดีเพื่อสังคม 

ความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่เรายึดมั่นในทุกการกระทำ เราได้ให้การสนับสนุนหมู่บ้านเด็ก SOS ในประเทศไทยผ่านการช่วยปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อเติมเต็มความรักและความอบอุ่นให้กับเด็กๆ ในชุมชน พร้อมทั้งช่วยสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับพวกเขา 

ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เราได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนประถมและมัธยมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางการศึกษาให้ดีขึ้น และวางรากฐานที่เป็นประโยชน์สำหรับคนรุ่นต่อไป 

นอกจากการศึกษาแล้ว เรายังตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการมีชีวิตที่ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราสนับสนุนให้พนักงานทั่วโลกของเราให้ความสำคัญกับสุขภาพสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมการกุศลต่างๆ 

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าของเราทำให้เราสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ ร่วมกัน เราสามารถส่งต่อความหวังไปได้ไกลกว่าที่เคย 

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Doo Prime โครงการ “OneMission” เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์ใหม่และขยายการเข้าถึงไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เรากำลังขยายความพยายามในการให้ความช่วยเหลือไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น จีน ไทย เวียดนาม แอฟริกา และอื่นๆ โดยมุ่งเน้นที่การศึกษา ความรับผิดชอบต่อสังคม และการปกป้องสิ่งแวดล้อม 

ความเมตตาคือแนวทางของเรา 

ก้าวต่อไป “OneMission” จะขับเคลื่อนงานการกุศลของเราด้วยนวัตกรรม ความร่วมมือที่แข็งแกร่ง และการขยายขอบเขตที่กว้างขึ้น ทุกการทำความดีจะนำพาไปสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น 

ร่วมกับ Doo Prime และพาร์ทเนอร์ทั่วโลกในการค้นหาโอกาสใหม่ๆ ในการตอบแทนสังคม ร่วมกัน เราสามารถเสริมสร้างพลังของการกุศลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นำแสงสว่างสู่ทุกมุมโลก และสร้างสรรค์วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า 

เยี่ยมชมเว็บไซต์ “OneMission” ที่ปรับโฉมใหม่และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของเราเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น 


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ  
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ Doo Prime ไม่รับประกันหรือให้คำมั่นใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ Doo Prime ยังไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยงในการลงทุน ความสูญเสีย หรือผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบุคคลใดๆ โดยตรงหรือโดยอ้อม 

การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินที่เป็นฐาน อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมากเกินกว่าการลงทุนเริ่มต้นของคุณภายในระยะเวลาอันสั้น 
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ กับเรา หากคุณไม่เข้าใจความเสี่ยงที่อธิบายไว้ที่นี่ คุณควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป