การเฉลิมฉลองความร่วมมือที่น่าจดจำ ณ โอลด์แทรฟฟอร์ด 

2024-09-06 | Doo Prime x Manchester United , กิจกรรมและงานต่างๆ

การเฉลิมฉลองความร่วมมือที่น่าจดจำ ณ โอลด์แทรฟฟอร์ด 

Doo Prime รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงานสำหรับพาร์ทเนอร์ทุกท่าน ณ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด อันทรงเกียรติ ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา และได้จบลงไปอย่างสวยงาม 

เราได้เรียนเชิญพาร์ทเนอร์จากทั่วทุกมุมโลกกว่า 70 ราย เพื่อมาเข้าร่วมกับเราที่แมนเชสเตอร์ ในช่วงสุดสัปดาห์ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความสนุกสนาน และการพบปะสังสรรค์ที่น่าประทับใจ 

ช่วงเวลาที่น่าจดจำ: จากการพบปะไปจนถึงการทัวร์สนามกีฬาและกิจกรรมฟุตบอล 

การเฉลิมฉลองความร่วมมือที่น่าจดจำ ณ โอลด์แทรฟฟอร์ด 

ในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม เปิดฉากช่วงสุดสัปดาห์งานเลี้ยงต้อนรับ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง ให้พาร์ทเนอร์ได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม อาหาร และการพบปะสังสรรค์ 

งานหลักในวันเสาร์เริ่มต้นด้วยการประชุมธุรกิจ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยซีอีโอของเรา คุณคอสตาส คัปไพส์ ได้แบ่งปันความสำเร็จและผลการดำเนินงานที่โดดเด่น พร้อมยกย่องการมีส่วนร่วมของพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้แบรนด์ของเราประสบความสำเร็จ 

หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของวันคือทัวร์พิเศษที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งพาพาร์ทเนอร์ร่วมดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์อันยาวนานและเหตุการณ์สำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทัวร์นี้ได้รวมการเยี่ยมชมห้องแต่งตัวของทีม พื้นที่ข้างสนาม ห้องแถลงข่าว และการเดินผ่านอุโมงค์ที่มีชื่อเสียง พาร์ทเนอร์ของเรายังมีโอกาสช้อปสินค้าลิขสิทธิ์ที่่่ชื่นชอบจากเมกะสโตร์ หนึ่งในร้านฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

หลังจากการทัวร์ ได้มีการจัดกิจกรรมถามตอบที่น่าสนใจกับตำนานแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ไบรอัน ร็อบสัน ที่รู้จักกันในชื่อ “Captain Marvel” ร็อบสันได้เล่าถึงเรื่องราวจากอาชีพที่โดดเด่นของเขาซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน 

งานสิ้นสุดลงด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลคอมมิวนิตีชีลด์ (FA Community Shield ) ระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นนี้มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมด้วยการเล่นฟุตบอลที่เร้าใจ พร้อมทั้งมีอาหารและเครื่องดื่มเสิร์ฟตลอดงาน 

การเฉลิมฉลองความสำเร็จของความร่วมมือที่น่าจดจำ 

ด้วยการจัดงานที่น่าจดจำอีกครั้ง เราขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่มาร่วมงานกับเราที่แมนเชสเตอร์ ถือเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จทางธุรกิจครั้งสำคัญ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์และแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานที่ Theatre of Dreams ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความหลงใหลในระดับโลก


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ  
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ Doo Prime ไม่รับประกันหรือให้คำมั่นใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ Doo Prime ยังไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยงในการลงทุน ความสูญเสีย หรือผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบุคคลใดๆ โดยตรงหรือโดยอ้อม 

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย           
ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป